ยังมีความพยายามที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตาม Road Map เดิมคือ ก.พ.62 คาดจะเห็นการตอบรับจากนักลงทุนที่ดีมากขึ้น ขณะที่การประชุม FOMC ในวันนี้ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวก ยังคงมุมมองดัชนีไม่ต่ำกว่า 1,790 จุด ก่อนจะฟื้นตัวตั้งแต่ 22-30 มี.ค.61 เพื่อไป 1,840 จุด เลือก RJH INTUCH และ PTTEP เป็น Top Pick

สูญญากาศยังไม่เกิด คณะกรรมการเลือกตั้ง 4 คนที่เหลือ ยังสามารถปฎิบัติหน้าที่ต่อได้ : ค่ำวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งตามมาตรา 44 ให้ ดร.สมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นจากการปฎิบัติหน้าที่กรรมการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งให้คณะกรรมการเลือกตั้งที่มีอายุครบ 70 ปี ให้อยู่ในตำแหน่งเพื่อปฎิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าประธานและกรรมการเลือกตั้งที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่

การปลดคุณ สมชัย และต่ออายุการทำงานให้กับคุณ บุญส่ง น้อยโสภณ ที่กำลังจะมีอายุครบ 70 ปีในปีนี้ และประธาน กกต. คุณ ศุภชัย สมเจริญ ที่จะครบ 70 ปีในปีหน้า ส่งผลให้คณะกรรมการเลือกตั้งยังเหลืออยู่ 4 คน ซึ่งเป็นจำนวนขั้นต่ำที่ยังสามารถกระทำในเรื่องที่สำคัญได้ (รัฐธรรมนูญในส่วนที่ 2 เกี่ยวกับคณะกรรมการเลือกตั้งระบุไว้ว่าคณะกรรมการเลือกตั้งที่เหลืออยู่ไม่ถึง 4 คนให้กระทำได้แต่เฉพาะการที่จำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้)

KS Research มองการต่ออายุการทำงานของ กกต. ที่มีอายุครบ 70 ปีเป็นความพยายามของนายกรัฐมนตรีในการที่จะให้ กกต. สามารถทำงานต่อได้ ซึ่งสามารถสะท้อนได้ถึงเจตนาที่อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปตาม Road Map เดิมให้มากที่สุดคือให้เกิดขึ้นก่อน ก.พ.62

ปัจจุบันการเลือกตั้งยังมีความเสี่ยงจากการที่ สนช. ไปยื่นร่าง พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ คาดว่าจะรู้ผลการวินิจฉัยในช่วงกลางเดือน พ.ค.61 (ผลกระทบจากคำวินิจฉัยในกรณีต่างๆ สามารถย้อนไปอ่านได้ใน Daily View ฉบับวันที่ 16 มี.ค.61) ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทำให้ต่างชาติพลิกกลับมาเป็นขายหนักทันที โดยขายมา 3 วันติดต่อกันกว่า 5.7 พันล้านบาท (เริ่มขายตั้งแต่วันที่ สนช. รวบรวมราชชื่อให้ครบ 25 คนเพื่อยื่นเรื่องให้ศาลฯพิจารณา)

กลุ่มพลังงานต้นน้ำมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นตัวช่วยตลาด โดย PTTEP มีโอกาสถูกซื้อกลับมากกว่า PTT : ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ WTI พุ่งขึ้น 2.2% เป็น Sentiment บวกต่อพลังงานต้นน้ำ โดยมีความเป็นไปได้สูงที่กระแสเงินจะสลับจาก PTT ซึ่งไม่เหลือ Upside แล้วมายัง PTTEP ที่มี Upside อีก 22% นอกจากนั้นเป็นที่น่าสังเกตุว่าวงเงิน Block Trade ใน PTT ปัจจุบันมีสูงถึง 4.3 พันล้านบาท ขณะที่ PTTEP มีอยู่เพียง 6 ร้อยล้านบาท ทั้งๆที่ต้นปีทั้งคู่ยังมีวงเงินที่ใกล้เคียงกันราว 1.2-1.8 พันล้านบาท สะท้อนว่า PTT ได้เกิดการซื้อสะสมมามากแล้ว ตรงกันข้ามกับ PTTEP ที่ยังแห้งอยู่ จึงเป็นการเปิดโอกาสในการเข้าซื้อใน PTTEP มากกว่า

การประชุม FOMC ในวันนี้คาดตลาดจะตอบรับเชิงบวกไม่ว่า Fed จะส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 หรือ 4 ครั้ง : วันนี้นอกจากละครบุพเพสันนิวาสที่ต้องรอดูแล้ว ยังมีการประชุม FOMC ที่ตลาดกำลังเฝ้าติดตาม ทั้งนี้ตลาดได้ซึมซับเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ไปมากแล้ว ดังนั้นหาก Dot Plot ปรับเพิ่มคาดการณ์ดอกเบี้ยปีนี้เป็น 2.375% เชื่อว่าตลาดจะไม่ตอบรับเชิงลบมากนัก แต่ถ้าหากยังคงมุมมองดอกเบี้ยไว้ใกล้ 2.125% ถือเป็นเรื่อง Surprise ตลาด สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกจะฟื้นตัวแรงโดยสรุปไม่ว่าการประชุม FOMC จะออกมาแบบไหนก็เชื่อว่าตลาดจะตอบรับไปในทางที่ดี

ตลาดเริ่มผ่อนคลายเรื่องสงครามการค้า หลังจีนยืนยันสงครามการค้าไม่เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใด :การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) จบลงไปแล้ว ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าววาทะที่คมคายว่า การพัฒนาของจีนไม่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศอื่นๆ และ มีเพียงผู้ที่คุ้นชินกับการคุกคามผู้อื่นเท่านั้นที่จะมองว่า ผู้อื่นเป็นภัยคุกคาม โดยยืนยันว่าจีนจะอยู่บนเส้นทางพัฒนาอย่างสันติ ซึ่งสอดคล้องกับ นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ได้กล่าวว่าจะไม่มีใครเป็นผู้ชนะจากสงครามการค้า หากสงครามการค้าเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐและจีนคาดว่าตลาดจะลดความกังวลเกี่ยวกับ Trade War ลง หนุนการฟื้นตัวในวันนี้ได้

วันนี้ให้รอติดตามการรายงานตัวเลขการค้าเดือน ก.พ. ของไทยตลาดคาดจะขยายตัว 9.2%

กลยุทธ์การลงทุน:

ยังคงมอง SET Index จะไม่ต่ำกว่า 1,790 จุด และจะเริ่มฟื้นตัวเพื่อไปทดสอบ 1,840 จุด วันนี้เลือก RJH INTUCH และ PTTEP เป็น Top Pick ส่วนการลงทุนระยะยาวธีมการลงทุนปี 2561 จะแบ่งเป็น 1) วัฐจักรการลงทุน นิคมฯและขนส่ง AMATA WHA JWD ธนาคาร BBL KTB รับเหมาฯ STEC CK PYLON 2) การฟื้นตัวของอุปโภคบริโภคในประเทศ ค้าปลีก CPALL HMPRO ROBINS COM7 อสังหา SC SPALI 3) เริ่มสะสมหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาทในครึ่งปีหลัง DELTA HANA

Daily Picks

Daily Picks   Trading Target

RJH                26.00

INTUCH             61.00

PTTEP             124.00

Alternative Trading

SET50 Futures: เปิด Long S50M18 ที่ 1,177 จุด เป้าทำกำไรที่ 1,193 จุด และตั้งจุดตัดขาดทุนที่ต่ำกว่าทุน 4 จุด

หุ้นแนะนำ Long

Long        ระดับ  เป้าทำกำไร

INTUCHH18    ATO      63.00

PTTEPH18     ATO     120.00

KS Daily Portfolio

หุ้นลงทุนตอนนี้จะเป็น MEGA PTTEP COM7 BBL AMATA

KS Daily Portfolio Top Pick

1. หุ้น Global Play

PTTEP เป็นหนึ่งใน top picks ในกลุ่มพลังงาน ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสำหรับกำไรปี 2560-63 ที่ 30% หนุนจากคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันและปริมาณยอดขายจะสูงขึ้น นอกจากนี้เรายังเล็งเห็น upside เพิ่มเติมได้ หาก PTTEP ชนะประมูลสัญญาสัมปทานแหล่งบงกช หรือกรณีที่ไปทำ M&A เพิ่มเติมได้ KS Research แนะนำ ซื้อ PTTEP ที่ 140.0 บาท

2. หุ้นที่อิงกับ Investment Cycle

BBL จะได้ประโยชน์จากวัฏจักรการเติบโตสินเชื่อที่มีแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งนี้เป็นเพราะ BBL มุ่งเน้นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เป็นหลัก ทั้งยังมีแรงกดดันด้านต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำ มีมูลค่าหุ้นถูก และคาดว่าจะมีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2561-62

AMATA น่าจะขายที่ดินได้มากขึ้นรวมไปถึงได้ประโยชน์จากการับมูลค่าที่ดินในพื้นที่ที่อยู่ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษของนิคมทั้งสองแห่ง นอกจากนี้การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำอย่าง ธุรกิจน้ำ โรงงานให้เช่าและโรงไฟฟ้า และแผนการขยายไปต่างประเทศยังมีโอกาสเพิ่มการลงทุนในประเทศพม่าต่อเนื่องจากประเทศเวียดนาม

3. หุ้นผลประกอบการโดดเด่น

MEGA รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2560 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30%YoYและ 56%QoQซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ถึง 13% คาดกำไรของ MEGA ยังมีโอกาสขยายตัวอีกมากในปี 2561 จาก โดยคาดว่า Synergy กับ Bio-Life จะเริ่มเห็นผล ทั้งจากการเพิ่มจุดขายของ MegaWeCare ในมาเลเซีย, ค่าขนส่งที่ลดลง, การย้ายสินค้าบางส่วนของ Bio-Life มาผลิตที่โรงงานของ MEGA เอง และการนำสินค้าของ Bio-Life มาขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่าน Maxxcare ระดับ Valaution ปัจจุบันถือว่าถูก โดยซื้อขายที่ PER 24 เท่า ซึ่งคิดเป็น 0.8SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต

COM7 หลังการประกาศงบกำไรสุทธิงวด 4Q60 ของ COM7 ที่ 212 ล้านบาท เติบโต 41% QoQ และ 45% YoY ถือเป็นกำไรที่สูงที่สุดในประวิติการณ์อีกครั้ง โดยได้ผลักดันมาจากรายได้การขายสมาร์ทโฟนที่ดี โดยเรายังมุมมองที่เป็นบวกต่อผลการดำเนิงานในปี 2561 หลังบริษัทคงแผนการขยาย และเป้าหมายรายได้ที่ 15% โดย KS Research คาดว่ากำไรจะสามารถเติบโตได้สูงถึง 27% ในปี 2561

Analyst (s)

ประกิต สิริวัฒนเกตุ

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

KS Research Team

Kasikorn Securities PCL

โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 21 มี.ค. 2561

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment