| Theme to Play - บล.แอพเพิล เวลธ์ |
|
| Thursday, 06 September 2018 09:27 | |||
|
Theme to Play
ตลาดหุ้นยุโรปดัชนี Stoxx 600 ปิด -0.40 % รอประเมินความเสี่ยงการเจรจาการค้าสหรัฐ – แคนาดา รวมถึงการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ ส่วนรายงานทางเศรษฐกิจนั้น Markit PMI ภาคบริการของกลุ่มยูโรโซน ส.ค. อยู่ที่ระดับ 54.4 เพิ่มขึ้นจาก ก.ค. ที่ 54.2 เป็นผลจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA ปิด +0.09 %, Nasdaq – 1.19 % หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Facebook , Twitter ปรับตัวลดลง หลังจากผู้บริหารบริษัทได้เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภา ในประเด็นการใช้ข้อมูลไม่ถูกต้องในช่วงการหาเสียงเลือกประธานาธิบดีปีก่อน นักลงทุนยังรอความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐ – แคนาดา และท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าจะประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสน ล.ดอลลาร์ ในวันนี้หรือไม่หลังจากผ่านพ้นช่วงประชาพิจารณ์ ในส่วนรายงานทางเศรษฐกิจนั้น ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐ ก.ค. อยู่ 5 หมื่น ล.ดอลลาร์ +9.5 % ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน และมียอดขาดดุลการค้าต่อจีน 3.68 หมื่น ล.ดอลลาร์ +10 % เป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ เย็นวันนี้ติดตามรายงานการจ้างงานภาคเอกชน ส.ค. สัญญาน้ำมัน WTI ต.ค. ปิด -1.70 % อยู่ที่ 68.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพายุเฮอร์ริเคนในอ่าวเม็กซิโกอ่อนกำลังลงและไม่สร้างความเสียหายกับแท่นขุดเจาะ ขณะที่เลขาธิการโอเปกแสดงความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐ – จีน จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มลดลง วันพรุ่งนี้ติดตาม EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดลดลงราว 2.5 ล.บาร์เรล ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิด -1.64 % ปริมาณการซื้อขาย 6.0 หมื่น ลบ. สถาบันขายสุทธิ 3.7 พัน ลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 597 ลบ. ส่วนต่างชาติขายสุทธิ 2.2 พัน ลบ. ใน Index Futures ต่างชาติมีสถานะ Short จำนวน 1.2 หมื่น สัญญา ส่วนตลาดพันธบัตรต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ 981 ลบ. Fund Flow ต่างชาติในตลาดหุ้น TIP สัปดาห์นี้ยังขายสุทธิรวม -275 M.USD. ภาวะการซื้อขายวานนี้ปรับตัวลดลงหลังจากค่าเงินในกลุ่มเปราะบาง 5 ประเทศ คือ บราซิล อินเดีย อินโด ฯ ตุรกี และแอฟริกาใต้ อ่อนค่าลงจากปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และเงินทุนไหลออก โดยภาพรวมดัชนี MSCI Emerging Currency วานนี้ยังอ่อนค่าลง -0.30 % แต่ช่วงเช้านี้ค่าเงินรูเปียห์อินโด ฯ เริ่มแข็งค่าขึ้นราว 0.40 % น่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่กลับมาทรงตัวได้ แต่ประเด็นหลักยังต้องติดตามท่าทีสหรัฐต่อการปรับขึ้นภาษีนำเข้าจีนรอบใหม่มูลค่า 2 แสน ล.ดอลลาร์ กลยุทธ์การลงทุน วางแนวรับดัชนีที่ 1.670 – 1,680 จุด แนะนำทยอยซื้อเนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 10 % ของ GDP ทยอยซื้อหุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการลงทุนและเลือกตั้ง เช่น AMATA , WHA , CK , STEC, BBL , PLANB รวมถึงเก็งกำไร CPF (+ การระบาดไข้หวัดหมูแอฟริกาในจีน )
Technical Brief SET Index ปิดตลาด -28.04 จุด ที่ระดับ 1,686.37 จุด มูลค่าการซื้อขายที่ 6.0 หมื่นล้านบาท หลุดแนวรับ 1,705 จุด แล้วเกิดแรงขายซ้ำปิดเป็นแท่งเทียนสีแดงเล่มยาว ฉุด MACD ให้ตัดลง Signal Line และ RSI ค้อมตัวลงอย่างชัด ประเมินดัชนีอาจมีการพักฐานต่อเนื่องลงไปแถวแนวรับ 1,665 – 1,675 จุด แนะนำ หากรีบาวน์กลับให้ทยอยขายแล้วค่อยรอทยอยซื้อกลับเมื่อดัชนีย่อตัว ส่วนแนวต้านถอยลงมาที่ 1,690 – 1,695 จุด ASIAN: แนะนำซื้อเก็งกำไร Res 9.80-10.00 / Sup 8.50 / Cut 8.30 DCC : แนะนำซื้อเก็งกำไร Res 2.86 / Sup 2.58 / Cut 2.52 SF : แนะนำซื้อเก็งกำไร Res 9.60 / Sup 8.95 / Cut 8.80
SET 50 Index Future กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น วานนี้ S50U18 ย่อตัวหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,120 จุด (เปิด Gap ลง) ซึ่งการย่อตัว 2 วันต่อเนื่องและดัชนีหลุดเส้นค่าเฉลี่ย EMA 75 วัน และ 200 วัน เป็นสัญญาณหนึ่งของการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง อย่างไรก็ตามแนวรับสำคัญของวันนี้อยู่ที่บริเวณ 1,100-1,105 จุด หากยืนบริเวณดังกล่าวไม่ได้แนะนำ Short และหากฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,115-1,122 จุด ก็แนะนำให้ Short on Strength กลยุทธ์การลงทุนระยะกลาง Wait & See
โดย บล.แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 6 ก.ย. 2561
|
Comments