บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ : รายงานภาวะหุ้น 01/02/53
|
|
Monday, 01 February 2010 10:48 |
บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 01/02/53
กระแสข่าวต่างประเทศ ดัชนี Dow Jones ปรับลดลงเมื่อวันศุกร์ โดยลบไป 53.13 จุด (-0.52%) ปิดที่ 10,067.33 จุด กลุ่มพลังงาน -1.55% กลุ่มการเงิน -0.63%(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบ มี.ค.ลดลง $0.75/บาร์เรล ปิด $72.89/บาร์เรล(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง $1.0 ปิดที่ $1,083.80/ออนซ์ (+/-) ดัชนีค่าระวางเรือดิ่งลง 115 จุด ปิด 2,848 จุด(+/-) ค่าการกลั่นสิงค์โปร์ปิดที่ $6.06/bbl เพิ่มขึ้นจาก $6.03/bbl ในวันก่อนหน้า(+/-) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4/52 ของสหรัฐฯ โดย ขยายตัว 5.7% มากกว่าที่ตลาดคาดจะอยู่ที่เฉลี่ย 4.5%(+/-) แถลงการณ์จากที่ประชุม World Economic Forum ระบุ เศรษฐกิจโลกกำลัง ฟื้นตัว โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีนและอินเดีย(+/-) ธนาคารกลางอินเดีย สั่งธนาคารพาณิชย์เพิ่มเงินสดสำรองอีก 0.75% เพื่อสู้กับ ปัญหาเงินเฟ้อ แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระยะสั้นไว้เช่นเดิม ขณะที่มีการปรับคาด การณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจจากเดิมที่คาดที่ 6% เป็น 7.5% (+/-) ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯประจำสัปดาห์ โดยวันจันทร์มีรายงาน ตัวเลขรายได้ส่วนบุคคลเดือน ธ.ค.52 และตัวเลขดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือน ม.ค. วันอังคารมีรายงานยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายและวันศุกร์มีรายงานตัวเลข การจ้างงานเดือน ม.ค.(+/-)
ในประเทศ SET Index รีบาวน์ขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยบวกไป 6.83 จุด(+0.99%) ปิด 696.55 จุด โดยหุ้นกลุ่มพลังงาน+0.95%กลุ่มธนาคาร +1.14% นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,136 ลบ.(+) กระทรวงพาณิชย์จะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.52 ในวันนี้ (+/-) กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จะปิดรับราคาเสนอซื้อ SCIB วันนี้เวลา 17.00 น.และจะนำรายชื่อผู้ที่เสนอราคามากสุดเสนอบอร์ด 4 ก.พ.นี้ (+/-) การเมือง ยังต้องจับตาการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯของกลุ่มเสื้อแดง โดยแกนนำ ระบุจะมีขึ้นหลังวันตรุษจีน (14 ก.พ.) และก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นลบ. ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรในวันที่ 26 ก.พ.(-) ความน่าสนใจลงทุนระยะสั้น : ต่ำ
ภาพเทคนิค : SET Index ในระดับ week กำลังทำรูปแบบ double top โดยมี แนวรับสำคัญที่ 676-670 จุด ซึ่งถ้าหากหลุดแนวรับนี้ โอกาสที่จะลงแรงต่อเนื่องมี ค่อนข้างสูง อย่างไรตามระยะสั้น ดัชนีอาจมีการรีบาวด์หลังอยู่ในเขต oversold มาก โดยแนะนำขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 701 หรือ 713 จุด ตามลำดับ กลยุทธ์การลงทุน : ภาพรวมยังให้ระมัดระวังในการลงทุน โดยคงน้ำหนักการ ลงทุนในหุ้นที่ระดับต่ำ 20-30% เน้นเล่นสั้นลุ้นรีบาวน์เท่านั้น คนที่จำเป็นต้องถือหุ้น ให้เลือกตัวที่งบดี ปันผลสูง หรือกลุ่ม Defensive Play โดยค่อยๆทยอยรับ และเพิ่ม น้ำหนักอีกครั้งช่วงใกล้วันประกาศงบ โดยหุ้นแนะนำสำหรับเดือน ก.พ.หุ้นใหญ่ PTTAR CPN PS KTB AP หุ้นเล็ก PF SIRI PRIN และ TICON
|
Comments