Snapshot

สหรัฐอเมริกา

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศระบุว่า สหรัฐจะยังคงมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ AAA ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดต่อไป ตราบใดที่สหรัฐชำระดอกเบี้ยตรงเวลา ถึงแม้เพดานการกู้ยืมเงินของรัฐบาลสหรัฐจะกลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ ทั้งนี้ ในเดือนพ.ย. 2015 สมาชิกสภาคองเกรสของรัฐบาลกลางสหรัฐได้ระงับการใช้เพดานหนี้ แต่การระงับดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันพุธนี้ และเพดานหนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้อีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ โดยจะอยู่ที่ระดับราว 19.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  นักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ระบุในรายงานวิจัยที่ออกมาว่าถึงแม้ภาวะชะงักงันชั่วคราวในการปรับขึ้นเพดานหนี้ถือเป็นปัจจัยลบต่อเครดิตที่เกิดจากการจัดการหนี้ของประเทศ สิ่งนี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา ทั้งมูดี้ส์และฟิทช์ต่างก็จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้รัฐบาลสหรัฐไว้ที่ AAA ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงหนึ่งขั้น สู่ AA+ ในเดือนส.ค. 2011 โดย S&P ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะสหรัฐมีหนี้สินสูง และมีความไม่แน่นอนในเรื่องความสามารถของรัฐบาลกลางสหรัฐในการจัดการกับภาระหนี้ หลังจากสมาชิกสภาคองเกรสขัดแย้งกันเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ในปี 2011 กระทรวงการคลังสหรัฐระบุในสัปดาห์ที่แล้วว่า ทางกระทรวงจะใช้ "มาตรการพิเศษ" ในการชำระหนี้ตามภาระผูกพัน ถ้าหากเพดานหนี้เริ่มมีผลบังคับใช้อีกครั้ง

ทำเนียบขาวแถลงว่า การเดินทางเยือนสหรัฐของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันศุกร์นี้ จากเดิมที่มีกำหนดเดินทางถึงสหรัฐฯ ในวันอังคารนี้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่อำนวย ซึ่งขณะนี้สหรัฐกำลังเผชิญกับพายุฤดูหนาวที่พัดถล่มทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า กำหนดการประชุมหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนางแมร์เคิลในวันศุกร์นี้ จะมีรายละเอียดเหมือนกับกำหนดการเดิมในวันอังคาร ทั้งนี้ สำนักงานบริการสภาวะอากาศแห่งชาติสหรัฐได้ออกคำเตือนพายุหิมะสำหรับกรุงนิวยอร์ก โดยคาดว่าจะมีหิมะตกหนา 12-20 นิ้ว และมีลมกรรโชกแรง 25-35 ไมล์/ชั่วโมงในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจากสภาพอากาศดังกล่าวได้ส่งผลให้สายการบินต่างๆประกาศยกเลิกเที่ยวบิน 1,445 เที่ยวในวันนี้ และเที่ยวบินจำนวน 2,031 เที่ยวประสบความล่าช้านอกจากนี้ สายการบินต่างๆยังได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน 4,032 เที่ยวในวังอังคารอีกด้วย

Conference Board รายงานดัชนีแนวโน้มการจ้างงาน (ETI) ในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 131.39   จากระดับที่มีการปรับแก้ไขแล้วที่ 129.91 ในเดือนมกราคม

ประเด็นที่น่าสนใจ

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% หลังรายงานการจ้างงานสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของFed (FOMC) จะจัดการประชุมนโยบายการเงิน 2 วันในวันอังคารและพุธนี้ ด้าน สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าปรับตัวรับโอกาสเกือบ 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธนี้

ยุโรป:

นายอิกนาซิโอ วิสโก สมาชิกสภาบริหาร ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า นโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจทำลายการค้าโลก และอาจเร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ  เขากล่าวว่าเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งใกล้ที่จะมีการจ้างงานเต็มอัตรา การขยายมาตรการทางการคลังแบบเชิงรุกก็เสี่ยงที่จะมีผลกระทบด้านการสนับสนุนวัฏจักรเศรษฐกิจ ในกรณีดังกล่าวขั้นตอนการปรับสภาวะทางการเงินให้เป็นปกติที่เฟดดำเนินการนั้นอาจจะเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะกลางถึงระยะยาวที่เกิดขึ้นตามมา ซึ่งยังคงสามารถควบคุมได้จนถึงขณะนี้ ก็อาจจะเห็นได้ชัดมากขึ้น และซ้ำเติมผลกระทบต่อตลาดระหว่างประเทศ เขากล่าวและเสริมว่านั่นอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่

ประเด็นที่น่าสนใจ

นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งในวันที่ 15 มีนาคม ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับการเลือกตั้งของประเทศเนเธอร์แลนด์  คือ โพลล่าสุดบ่งชี้ว่า นายกีรต์ ไวลเดอร์ส หัวหน้าพรรค Party for Freedom (PVV) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ได้รับคะแนนนิยมสูงขึ้นสู่ระดับ 35% นำหน้านักการเมืองคนอื่นๆ หรือคะแนนนำพรรคของ มาร์ก รุตเทอ (Mark Rutte) ประธานาธิบดีของเนเธอร์แลนด์ โดย นายกีรต์ ไวลเดอร์ส นั้น มีแนวคิดต่อต้านนโยบายการเปิดรับผู้อพยพและชาวมุสลิม และที่สำคัญคือ เขาเคยประกาศไว้ว่า หากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งจะจัดให้มีการลงประชามติเพื่อตัดสินอนาคตว่าเนเธอร์แลนด์ จะยังคงเป็นสมาชิก EU ต่อหรือไม่ (นสพ.ผู้จัดการออนไลน์: 3 มีนาคม 2560)

เอเซีย: ญี่ปุ่น

ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นลดลงอย่างพลิกความคาดหมายในอัตรา 3.2% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 เดือน และตัวเลขนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะไม่ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่นตั้งความหวังว่า การฟื้นตัวของรายจ่ายฝ่ายทุนจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่น และจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นออกจากภาวะเงินฝืดและภาวะชะงักงัน  สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานลดลง 3.2% ต่อเดือนในเดือนม.ค. ถึงแม้นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้ออาจปรับขึ้น 0.5% ต่อเดือนในเดือนม.ค. โดยก่อนหน้านี้ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเพิ่งเพิ่มขึ้น 2.1% ต่อเดือนในเดือนธ.ค. ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานคือยอดสั่งซื้อที่ไม่รวมเครื่องจักรสำหรับเรือและโรงไฟฟ้า โดยตัวเลขนี้อาจจะแกว่งตัวผันผวนเป็นอย่างมาก แต่นักลงทุนถือว่าตัวเลขนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ล่วงหน้าถึงรายจ่ายฝ่ายทุนในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้า

อินโดนีเซีย

นายอากัส มาร์โตวาร์โดโจ ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียกล่าวว่า เศรษฐกิจของอินโดนีเซียอาจขยายตัวต่ำกว่า 5.05% ในไตรมาสแรก เนื่องจากงบรายจ่ายของรัฐบาลที่ชะลอตัวลง เขากล่าวว่า ธนาคารกลางยังคงคาดการณ์จีดีพีทั้งปีนี้ที่ 5.0-5.4%

ฟิลิปปินส์

ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์กล่าวว่า อาจจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าสำหรับนางเรจินา โลเปซ รมว.สิ่งแวดล้อมที่จะบังคับใช้คำสั่งห้ามทำเหมืองอีกครั้ง เมื่อพิจารณาจากความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากบริษัทเหมือง ยังไม่ชัดเจนในทันทีว่า ปธน.ดูเตอร์เตกำลังเรียกร้องให้มีการออกคำสั่งห้ามการทำเหมืองทั้งหมด หรือปรับคำสั่งของนางโลเปซที่ปิดเหมืองกว่าครึ่งในฟิลิปปินส์ให้เข้มงวดขึ้น เขากล่าวอีกว่า เขาต้องการที่จะพบกับบริษัทเหมืองในประเทศ เพื่อให้พวกเขาชี้แจงถึงสิ่งที่นำไปสู่การทำลายสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ต่างๆที่พวกเขาดำเนินการ

ไทย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี คาดการจัดทำร่างข้อกำหนดคุณสมบัติการจัดซื้อจัดจ้าง(ทีโออาร์) โครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง จะเสร็จในช่วงกลางปีนี้ และจะเปิดประมูลให้ได้ภายในปี 60 นายสมคิด กล่าวในการแถลงข่าว ภายหลังการประชุม คณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(กรศ.) นัดแรกในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่ารถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง ภายในกลางปีนี้ จะทำทีโออาร์ให้แล้วเสร็จ และจะให้เปิดประมูลภายในปีนี้อย่างแน่นอน เขากล่าวอีกว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ จะมีการเสนอให้มีการพิจารณาให้สนามบินอู่ตะเภา เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ด้าน Aviation Hub รวมทั้งจะมีการรายงานความคืบหน้าต่างๆ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง นายสมคิดกล่าวด้วยว่า จะมีการเสนอโครงการรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ทั้งแพคเกจ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในสิ้นเดือนมี.ค.นี้

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันจันทร์ (13 มีค.) เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในวันนี้ ขณะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันอังคารและวันพุธนี้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งนี้หลังจากที่ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วสองครั้งในปี 2015 และ 2016

- ดอลลาร์/เยน วันจันทร์ (13 มีค.)   เงินเยนแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ โดยนักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเป็นเวลาสองวันซึ่งจะเริ่มในวันอังคารและนักลงทุนส่วนใหญ่ตาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งนี้หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯสองเดือนแรกปีนี้ออกมาดีมากซึ่งบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจมีมากขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯหลายคนก็ชี้ถึงความจำเป็นมากขึ้นในการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้และจำนวนครั้งในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มีแนวโน้มสูงที่จะมากกว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมาเนื่องจากคาดว่านโยบายการคลังและมาตรการอื่นๆของรัฐบาลสหรัฐฯจะมีบทบาทสูงขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ค่าเงินเยนกลับมาอ่อนค่าในช่วงปิดท้ายตลาด

- ยูโร/ดอลลาร์ วันจันทร์ ( 13 มีค.) เงินยูโรแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์เนื่องจากรายงานข่าวชี้ว่าในการประชุมธนาคารกลางยุโรปเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมาผู้กำหนดนโยบายบางคนของธนาคารกลางยุโรปพูดถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก่อนที่มาตรการเข้าซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของอีซีบีจะสิ้นสุดลง

Capital Market

- ตลาดสหรัฐฯ วันจันทร์ ( 13 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในการซื้อขายที่เบาบางในวันจันทร์ ขณะที่บรรดาเทรดเดอร์ที่จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในวันอังคารและพุธนี้คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ โดยบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาสราว 94% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันพุธนี้ ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ  0.10% สู่ระดับ 20,881.48, ดัชนี S&P 500 ปิดปรับขึ้น  0.04% สู่ระดับ 2,373.47 และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 0.24% สู่ระดับ 5,875.78

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันจันทร์ ( 13 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นเอเซียส่วนใหญ่สูงขึ้นในวันนี้ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันอังคารและวันพุธนี้ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งนี้เนื่องจากความเชื่อมั่นทั้งของภาคธุรกิจและผู้บริโภคในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมากหลังการเลือกตั้งในสหรัฐฯปลายปีก่อน โดยปิดตลาดวันนี้ดัชนีนิกเกอิเพิ่มขึ้น 0.15%  ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดเพิ่มขึ้น  0.76% และดัชนีฮั่งเส็งวันนี้ปิดเพิ่มขึ้น 1.11% โดยทั้งตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงวันนี้ได้แรงกระตุ้นจากการที่นักลงทุนบางส่วนมองในเชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ดีแนวโน้มในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯประกอบกับภาวะที่การขยายสินเชื่อในจีนสูงมากในช่วงที่ผ่านมารวมทั้งปัจจัยเรื่องเงินทุนไหลออกจากจีนมากขึ้นยังคาดว่าจะทำให้นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้นในการลงทุนในตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง

- ตลาดหุ้นไทย วันจันทร์ ( 13 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันอังคารและวันพุธนี้ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก โดยมีแรงขายมากในหลายกลุ่ม เช่น อาหารและเครื่องดิ่ม  เงินทุนและหลักทรัพย์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยปิตตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 4.40 จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 14 มี.ค. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment