สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
Print
Monday, 04 June 2018 09:28

สถานการณ์เศรษฐกิจต่างประเทศ

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนพฤษภาคม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 188,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2543 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.1% และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนก่อน ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนมีนาคม โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับลดตัวเลขจ้างงานในเดือนเม.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 159,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 164,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ลดลงสู่ระดับ 62.7% จากระดับ 62.8% ในเดือนเม.ย.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 1.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2559 หลังจากลดลง 1.7% ในเดือนมีนาคม นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายปี การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐพุ่งขึ้น 7.6% ในเดือนเมษายน

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 58.7 จากระดับ 57.3 ในเดือนเมษายน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวสู่ระดับ 58.4  ทั้งนี้ ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัวของภาคการผลิต และเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 21 อย่างไรก็ดี ในส่วนของ ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลงสู่ระดับ 56.4 จากระดับ 56.5 ในเดือนเมษายน แต่ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 51.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนเม.ย. ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงมีการขยายตัวจากเดือนก่อน

นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงคลังของญี่ปุ่นได้ผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กจากญี่ปุ่นเป็นการถาวร ในระหว่างการพบปะหารือกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตีกระทรวงคลังสหรัฐ โดยนายอาโสะและนายมนูชินได้พบปะกันที่เมืองวิสท์เลอร์ของแคนาดาเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาก่อนที่การประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G7 จะเปิดฉากขึ้น นายอาโสะยังได้เรียกร้องให้สหรัฐชะลอการตัดสินใจเรื่องการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบว่า การนำเข้ารถยนต์มีผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐหรือไม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกมองว่า สหรัฐอาจจะพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ รถบรรทุก และชิ้นส่วนรถยนต์

สำนักงานสถิติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวขึ้นแตะ 1.5% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากค่าบริการและราคาสินค้าการเกษตรที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่าน ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.1%ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมความผันผวนของราคาน้ำมันและอาหารนั้น ปรับตัวขึ้น 1.3% เทียบรายปี อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางเกาหลีที่ 2% ในปีนี้

กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้ปัจจัยหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าหลักๆ และการขยายตัวคึกคักในอุตสาหกรรมไอทีทั่วโลกทั้งนี้ ส่วนยอดนำเข้าในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 12.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี กระทรวงฯระบุว่า การที่มูลค่าการส่งออกสูงกว่าการนำเข้านั้น ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้าทั้งสิ้น 6.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำสถิติเกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 76

 

สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ

กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือนพ.ค. อยู่ที่ 102.14 เพิ่มขึ้น 1.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 0.56% เมื่อเทียบเดือนเม.ย. 61 (MoM)  ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือนพ.ค.61 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน และเป็นอัตราสูงที่สุดในรอบ 16 เดือน จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ามันเชื้อเพลิงในอัตราที่สูงในรอบ 13 เดือน ส่วน Core CPI อยู่ที่ 101.95 เพิ่มขึ้น 0.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่ม 0.17% จากเดือน เม.ย..61

 

ปัจจัยต่างประเทศ (4 มิถุนายน 2561): ตามเวลาประเทศไทย

ประเทศ          ปัจจัย

EU             - ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เม.ย.

USA            - ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเม.ย.

 

ปัจจัยในประเทศ

วันที่                ปัจจัย

สัปดาห์ที่ 2           หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

4 มิ.ย. 61          ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)

5 มิ.ย. 61          ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)

6 มิ.ย. 61          รัฐบาลเตรียมจัดมหกรรมผลงานปฏิรูป 11 คณะ

Source: http://www.ryt9.com/s/iq03/2835001

 

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันศุกร์ (1 มิย) เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกลงเกี่ยวกับปัญหาการเมืองในอิตาลีและสเปน ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯถูกกดดันจากการที่สหรัฐได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมต่อแคนาดา, เม็กซิโก และสหภาพยุโรป (EU) ขณะที่ EU และเม็กซิโกประกาศมาตรการตอบโต้สหรัฐทันทีเช่นกันซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลมากขึ้นต่อแนวโน้มสงครามการค้าที่จะทวีความรุปแรงขึ้น และอาจจะส่งผลให้สหรัฐฯขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้น ขณะเดียวกันในสุดสัปดาห์นี้นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ จะเดินทางเยือนจีนในวันที่ 2-4 มิ.ย.นี้ เพื่อปรึกษาหารือกับทางการจีนเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจและการค้าซึ่งนักลงทุนก็จับตาว่าจะมีความเป็นไปได้มากขึ้นหรือไม่ที่สหรัฐฯกับจีนจะสามารถหาทางออกที่สามารถยอมรับกันได้ทั้งสองฝ่ายหรือไม่ โดยทางการสหรัฐฯแถลงก่อนหน้านี้ว่าในวันที่ 15 มิ.ย. สหรัฐจะเปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% ส่วนในวันที่ 30 มิ.ย. สหรัฐจะประกาศข้อจำกัดในการลงทุนและการควบคุมการส่งออกต่อผู้นำภาคธุรกิจของจีน อ

- ดอลลาร์/เยน วันศุกร์ (1 มิย) เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้โดยนักลงทุนคลายความวิตกเรื่องการเมืองในอิตาลีและสเปนลง แต่วิตกเรื่องความขัดแย้งการค้าสหรัฐฯกับกันประเทศต่างๆมากขึ้นซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังมีแนวโน้มกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดีวันนี้นักลงทุนก็จับตาการายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯในคืนนี้ ซึ่งจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 12-13 มิถุนายนนี้ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% โดยในช่วงค่ำรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งเกินคาดส่งผลให้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนนี้

- ยูโร/ดอลลาร์ วันศุกร์ (1 มิย) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลีจะประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องเลือกตั้งใหม่ ขณะที่การเมืองสเปนก็มีแนวโน้มจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่มาจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านหลังนายกรัฐมนตรี Mariano Rajoy แพ้โหวตไม่ไว้วางใจในสภา โดยในช่วงค่ำเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯหลังรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯแข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่การเมืองอิตาลีและสเปนผ่อนคลายไปในทางที่ดีขึ้น

 

Capital Market

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯวันศุกร์ (1 มิย)  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่เพิ่มเกินคาดในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราว่างงานก็ต่ำกว่าคาดการณ์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่ม 0.90% ปิดที่ 24,635.21 ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.08% ปิดที่ 2,734.62 ดัชนี Nasdaq เพิ่ม 1.51% ปิดที่ 7,554.33

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันศุกร์ (1 มิย) ดัชนีนิกเกอิปิดลดลงในวันนี้ เนื่องจากแรงซื้อที่หนุนตลาดจากการที่ความตึงเครียดทางการเมืองในอิตาลีคลี่คลายลง ได้ถูกสกัดจากรายงานที่ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากสหภาพยุโรป แคนาดา และเม็กซิโกโดยดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 0.14% มาอยู่ที่ระดับ 22,171.35 ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดวันนี้ปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียม 10% ต่อแคนาดา, เม็กซิโก และ EU โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตลดลง 0.66% ปิดที่ 3,075.14 ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ปิดตลาดเช้าในแดนลบ โดยปิดตลาดวันนี้ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 0.08% ปิดวันนี้ที่ 30,492.91

- ตลาดหุ้นไทย วันศุกร์ (1 มิย)  ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ลดลงนำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี เทคโนโลยีสารสนเทศและการสิ่อสาร  และกลุ่มพาณิชย์ ขณะที่มีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มวัสดุก่อสร้างโดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 7.15 จุด

 

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 4 มิ.ย. 2561

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment