รมว.คลังเคาะเก็บค่าต๋งแบงก์เอกชน-รัฐ0.47% |
![]() |
![]() |
![]() |
Monday, 13 February 2012 14:01 | |||
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วมกับผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สมาคมธนาคารไทยเช้าวันนี้มีข้อคิดเห็นที่สอดคล้องกันในเบื้องต้นเกี่ยวกับอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งจากธนาคารพาณิชย์เอกชนรวม 0.47% ของฐานเงินฝาก แบ่งเป็น 0.46% ของฐานเงินรับจากประชาชน ซึ่งเป็นเงินฝาก รวมกับตั๋วแลกเงิน(B/E)และตราสารหนี้อื่น และส่งเข้าสถาบันคุมครองเงินฝาก 0.01% ของฐานเงินฝาก ขณะที่ธนาคารเฉพาะกิจภาครัฐที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการปฏิบัติที่ลักลั่นกัน จึงจะมีการดูแลแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดังนั้น กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการจัดเก็บเงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในอัตราเท่ากันที่ 0.47% ของฐานเงินฝาก เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ โดยการจัดตั้งกองทุนพัฒนาประเทศขึ้นมา นอกจากนั้น ยังได้มอบหมายให้ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันคุ้มครองเงินฝาก และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาให้มีการทบทวนแนวทางคุ้มครองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ให้มีระดับสูงกว่าที่กำหนดไว้ในแผนเดิม เพราะมองว่าการดูแลการฝากเงินโดยที่ธปท.ได้มีการดูแลสถาบันการเงิน หากเรามั่นใจการดูแลและการรับประกันเพื่อให้ความเชื่อมั่นผู้ฝากเงินสามารถที่จะทำได้ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า สำหรับอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่ 0.47% เป็นอัตราที่ ธปท.พร้อมจะเข้าไปดูแลอัตราดอกเบี้ยจ่ายของหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ และจะทยอย ๆ ลดเงินต้น ซึ่งในช่วงแรกไม่จำเป็นต้องเร่งลดเงินต้น แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ภาระหนี้เงินต้นจะลดลงเอง ดังนั้นการกำหนดระยะเวลาคืนหนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้ เพราะในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม อัตราดังกล่าวสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ การดำเนินการครั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าภาระหนี้ใหม่ที่รัฐบาลจะดำเนินการจะได้รับการดูแล ขณะที่หนี้เก่าที่ถูกซุกซ่อนมาเป็นเวลานานก็จะถูกแก้ไข อัตราที่จัดเก็บใหม่เริ่ม 31 ก.ค.จะนำไปสู่การที่รัฐบาลไม่ต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อดูแลภาระหนี้ส่วนหนี้ และเป็นการเดินหน้าประเทศไทยจาก พ.ร.ก.ที่เกี่ยวข้องอีก 3 ฉบับในการแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติ
|
![]() | Today | 1007 |
![]() | All days | 1007 |
Comments