Error
เชื่อมจีน เชื่อมอาเซียน...กับนครหนานหนิง
Print
Wednesday, 26 September 2012 15:17

‘พาณิชย์’ เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้ากับจีน โดยเดินทางเข้าร่วมงาน China-ASEAN EXPO ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2555 ณ เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซี ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่ปี 2546 การจัดงานดังกล่าวมีความสำคัญต่อความเจริญความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนและจีน โดยมีผู้นำของจีนและอาเซียนเข้าร่วม

 

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้เดินทางเข้าร่วมงานแสดงสินค้า China-ASEAN EXPO ณ นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซี ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องมาทุกปี ตั้งแต่รัฐบาลกลางของจีนมีนโยบายให้นครหนานหนิงเป็น “ประตูการค้าของอาเซียน-จีน” เนื่องจากเขตปกครองตนเองกวางสีมีจุดเด่นทางภูมิศาสตร์ โดยเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศจีนกับอาเซียน (เวียดนาม) และมีศักยภาพทางด้านโลจิสติกส์ขนส่งสินค้าทั้งทางบกและทางเรือ

 

ในปีนี้ ถือเป็นปีที่พิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากครบรอบ 10 ปี ของการลงนามกรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน–จีน (ASEAN-China Free Trade Area) ไทยในฐานะ Country Coordinator ของอาเซียน และเป็นประธานร่วมฝ่ายอาเซียนในคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าอาเซียน-จีน (ACFTA) ได้ร่วมมือกับจีนและประเทศอาเซียนอื่นๆ เฉลิมฉลองโอกาสดังกล่าวโดยจัดงานวิชาการ 2012 Forum on China-ASEAN FTA ขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับงาน China-ASEAN Expo ซึ่งมีผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐและภาคเอกชนจากอาเซียนและจีน เข้าร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

 

สำหรับประเทศไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิ สาระผล) ได้เดินทางเข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์กับรัฐมนตรีเศรษฐกิจจากประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ด้วย โดยไทยได้เน้นย้ำศักยภาพของทั้งสองฝ่ายที่สามารถประสานเชื่อมโยงจุดแข็งระหว่างกัน เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจการค้า และการลงทุน พร้อมทั้งเชื่อมโยงการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านโครงการสำคัญๆ อาทิ โครงการรถไฟสิงคโปร์-คุนหมิง โครงการระเบียงเศรษฐกิจในแนวเหนือ-ใต้ โครงการท่าเรือน้ำลึกทวายในเมียนมาร์ รวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ จะเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนในอนาคต

 

นอกจากนี้ ในช่วงงาน CAEXPO รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้หารือกับ รองประธานาธิบดีจีน (นายสี จิ้นผิง) ซึ่งจะเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของจีนในปีหน้า และหารือกับประธานเขตปกครองตนเองกว่างซี (นายหม่า เปียว) โดยสองฝ่ายได้หารือแนวทางการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน ในด้านต่างๆ ทั้งในระดับรัฐบาลกลางและระดับมณฑล อาทิ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น

 

ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ถือเป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าระหว่างอาเซียนกับจีน จะเห็นได้จากมูลค่าการค้าระหว่างอาเซียนและจีน ที่ขยายตัวขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 2554 การค้าระหว่างอาเซียนกับจีนขยายตัวถึง 45 เท่า นับจากปี 2534 ซึ่งเป็นปีที่จีนสถาปนาเป็นคู่เจรจา (Dialogue Partner) ของอาเซียน โดยเพิ่มจาก 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2534 เป็น 362.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทั้งสองฝ่ายคาดการณ์ว่าการค้าระหว่างอาเซียนกับจีนน่าจะสูงถึง 500 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2558

 

สำหรับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคีไทย-จีน ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในทุกมิติมาเป็นเวลานาน ด้านเศรษฐกิจการค้า จีนมีความสำคัญในฐานะคู่ค้าและนักลงทุนในอันดับต้นๆ ของไทย คือ อันดับ 2 (รองจากญี่ปุ่น) มูลค่าการค้าสองฝ่ายกว่า 58 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2554 ด้วยอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 27 และเป็นนักลงทุนอันดับที่ 4 มูลค่าการลงทุน รวม 28.5 พันล้านบาท สาขาที่จีนสนใจเข้ามาลงทุน คือ ผลิตภัณฑ์โลหะและเครื่องจักร ผลิตภัณฑ์จากการเกษตร อุตสาหกรรมสิ่งทอ ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ไฟฟ้า/และอิเล็กโทรนิค ทั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย กว่า 1,760,564 คน เป็นอันดับ 2 รองจากมาเลเซีย

 

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment