Error
เหมราชฯโชว์กำไรสุทธิปี2558จำนวน3,335.8ล้านบาท
Print
Thursday, 25 February 2016 12:43

บริษัทเหมราชฯ ประกาศกำไรสุทธิประจำปี 2558 จำนวน 3,335.8 ล้านบาท ท่ามกลางสภาวะที่ท้าทายทางเศรษฐกิจ (กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้เท่ากับ 3,698.3  ล้านบาท)

 

บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานปี 2558 สรุปได้ดังนี้

 

ในไตรมาส 4 ปี 2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,261.4  ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 174 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.130 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 198 และมีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ในไตรมาส 4 ปี 2558 จำนวน 1,228.0 ล้านบาท (ไม่รวมการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 33.3 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 127

 

สำหรับปี 2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 3,335.8 ล้านบาท ซึ่งรวมกำไรของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยแล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.339 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10

 

บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งผลกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภค (ไม่รวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้) รวมเป็น 1,594.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้จากการลงทุนด้านพลังงาน (โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน และ GJP NLL) จำนวน 362.5 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้จำนวน 3 ล้านบาท เมื่อช่วงเดียวกันของปี 2557 ด้วยเหตุนี้ บริษัทเหมราชฯ มีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ในปี 2558 จำนวน 3,698.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13

มร. เดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ดังนี้

“บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) มีผลการดำเนินงานและผลประกอบการประจำปี 2558 ในระดับที่สูง เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับสภาวะทางเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก บริษัทฯ มีรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 โดยรายได้ในส่วนนี้จะสามารถรับรู้ได้ก็ต่อเมื่อมีการโอนที่ดิน อย่างไรก็ตาม ในส่วนรายได้รวมจากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในทุกกลุ่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ขณะที่รายได้จากระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม (ไม่รวมพลังงาน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับเดียวกันของปีที่ผ่านมาเช่นกัน

สำหรับปี 2558 บริษัทฯ สามารถขายที่ดินอุตสาหกรรมได้จำนวน 1,043 ไร่ (417 เอเคอร์ หรือ 167 เฮกตาร์) จากสัญญาจำนวน 28 สัญญา ซึ่งในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่จำนวน 22 ราย และจากการขยายกิจการของลูกค้ารายเดิม 6 ราย โดยร้อยละ 64 เป็นลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมยานยนต์

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศในปี 2558 ลดลงร้อยละ 9 ขณะที่ปริมาณการผลิตรถยนต์โดยรวมกลับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ส่วนยอดการส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จึงส่งผลให้มูลค่าการส่งออกยานยนต์ในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกยานยนต์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.05 ของมูลค่าการส่งออกของไทยทั้งหมด

สำหรับปี 2558 ยอดการเช่าพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปภายใต้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเหมราชอินดัสเตรียล (HPF) มีจำนวนใกล้เคียงกับที่ผ่านมาที่ 299,586 ตร.ม. ในขณะที่บริการคลังสินค้าให้เช่าของเหมราชฯ มียอดการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น 17,647 ตารางเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 21 จากยอดรวมของปี 2557

สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า บริษัทเหมราชฯ ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนในธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภค (ไม่รวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง) เป็นจำนวน 1,594.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทเหมราชฯ ยังได้ลงนามในข้อตกลงถือหุ้นกับบริษัท บี.กริม และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี  ดีเวลลอปเมนท์ ในปี 2558 เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กอีก 7 โครงการ ซึ่งแต่ละโครงการมีกำลังการผลิตที่  126 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป การลงทุนครั้งนี้จะช่วยส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในส่วนที่เหมราชถือครองเพิ่มขึ้นจาก 318 เมกะวัตต์ เป็นทั้งสิ้น 538 เมกะวัตต์ ภายในปี 2562

ส่วนการผนึกกันระหว่างดับบลิวเอชเอ และเหมราช จะทำให้ทั้งสองบริษัทสามารถนำเสนอสินค้าและบริการด้านนิคมอุตสาหกรรม ระบบสาธารณูปโภค โรงไฟฟ้า และโลจิสติกส์ที่ครบวงจรให้แก่ลูกค้า และสร้างเสริมความสำเร็จร่วมกันต่อไป

บริษัทฯ มีแหล่งรายได้จากหลายธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจสาธารณูปโภค ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และผลการดำเนินงานของปี 2558 ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างผลกำไรจากการลงทุนที่ก่อให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่อง  โดยกลยุทธ์ของบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวเป็นหลัก และเนื่องจากการเสนอซื้อหุ้นต่อผู้ถือหุ้นทั่วไปครั้งที่สองของดับบลิวเอชเอแล้วเสร็จด้วยสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 98.54 บริษัทฯ จะมุ่งดำเนินการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากการผนวกรวมกิจการให้ต่อเนื่องต่อไป ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญกว่า 23 ปี ของกระผมในการพัฒนาที่ดินและนิคมอุตสาหกรรมของเหมราชฯ ผมขอขอบคุณสำหรับความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากทุกท่านตลอดมา” มร. เดวิด นาร์โดน กล่าว

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment