ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาส4ปี2561เติบโต3.7%
Print
Tuesday, 19 February 2019 08:01

           ภาพเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 3.7 YoY ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากแรงฉุดจากภาคต่างประเทศลดลง ในขณะที่การใช้จ่ายในประเทศยังโตต่อเนื่อง โดยปัจจัยสงครามการค้ายังมีผลให้การส่งออกในช่วงไตรมาสที่ 4 ยังขยายตัวได้ในระดับต่ำต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3 ซึ่งในหลายเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียก็ได้รับผลกระทบเรื่องสงครามการค้าเช่นกัน ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 4 ทำให้แรงฉุดจากภาคต่างประเทศในไตรมาสที่ 4 ลดทอนลง

 

           เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก 2562 คาดว่า จะขยายตัวต่ำกว่าประมาณการทั้งปี 2562 ที่ร้อยละ 4.0 ซึ่งนอกจากผลของฐานที่สูงในช่วงครึ่งแรกของปี 2561แล้ว ยังเผชิญมีความไม่แน่นอนทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ปัจจัยภายนอกประเทศยังมีความไม่ชัดเจนหลายประการทั้งประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังจะเป็นประเด็นค้างคา สถานการณ์ Brexit ที่ยังมีความเสี่ยงที่อังกฤษจะออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลง ในขณะที่เศรษฐกิจจีนและสหภาพยุโรปมีสัญญาณการชะลอตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ ในขณะที่ ปัจจัยในประเทศคงจะอยู่ที่การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้ โดยผลต่อเศรษฐกิจทางหนึ่งจะมีการกระจายเม็ดเงินหมุนเวียนจากกิจกรรมการเลือกตั้ง แต่อีกทางหนึ่งนักลงทุนคงรอดูสถานการณ์หลังการเลือกตั้งเพื่อให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากผ่านพ้นไปอย่างเรียบร้อย ปัจจัยดังกล่าวน่าจะสร้างผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ไว้ที่ร้อยละ 4.0 โดยมีกรอบประมาณการที่ร้อยละ 3.5-4.2

•              เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 4 ปี 2561 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ 3.7 จากผลของแรงฉุดภาคต่างประเทศที่ลดทอนลง ในขณะที่การใช้จ่ายในประเทศยังคงเป็นแรงหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ทำให้แรงฉุดภาคต่างประเทศต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการภาครัฐในเรื่องการลดหย่อนค่าธรรมเนียม Visa On Arrivals ที่เริ่มใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของสถานการณ์ท่องเที่ยวที่หดตัวลงไปมากในไตรมาสที่ 3 ให้กลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน ในขณะที่ประเด็นสงครามการค้ายังส่งผลกระทบต่อการส่งออกให้ชะลอตัวลง เห็นได้จากหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชียที่พึ่งพิงการส่งออกก็ได้รับผลกระทบผ่านการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายครัวเรือนกลับมีกระจายตัวมากขึ้น โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐที่ประคองกำลังซื้อของประชาชนในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งสะท้อนผ่านการใช้จ่ายครัวเรือนในหมวดสินค้าที่ไม่คงทนขยายให้ตัวดีขึ้น โดยการบริโภคภาคเอกชนในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 5.3 (YoY) สูงสุดในรอบ 23 ไตรมาส

•              ภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปีของ 2561 ที่มีการพึ่งพิงการเติบโตจากการใช้จ่ายในประเทศมากขึ้นจะยังเป็นภาพต่อเนื่องมายังเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยฐานที่สูงในครึ่งปีแรก 2561 ประกอบกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก 2562 น่าจะขยายตัวได้ต่ำกว่าประมาณการทั้งปี 2562 ที่ร้อยละ 4.0

>> สถานการณ์เศรษฐกิจต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูงในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 โดยประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ในวันที่ 1 มีนาคม 2562 จะครบกำหนดการเลื่อนเวลาในการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ จากจีนที่ร้อยละ 25 ในรายการสินค้าที่มีวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ประเด็นดังกล่าวจะยังจะเป็นประเด็นค้างคา และยังมีผลกระทบต่อการค้าโลกและการส่งออกของไทยในปี 2562 นี้ให้ชะลอตัวลง แม้ว่าจะมีสัญญาณบวกต่อความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีน แต่ยังมองว่า ภายใต้สถานการณ์ที่ดีที่สุดนั้น สหรัฐฯ อาจจะไม่ขึ้นอัตราภาษีเป็นร้อยละ 25 ในทันทีที่ครบกำหนดในวันที่ 1 มีนาคม 2562 โดยอาจจะมีการยืดระยะเวลาการเจรจาออกไปอีก แต่จะไม่ยกเลิกการขึ้นภาษีที่ได้ทำมาก่อนหน้านั้นแล้ว ในขณะที่ สถานการณ์ Brexit ยังคงมีความเสี่ยงที่อังกฤษจะออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยังคงสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงินของโลกในระยะข้างหน้า

 >> ในขณะที่ ปัจจัยในประเทศคงจะอยู่ที่ประเด็นการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้ โดยผลต่อเศรษฐกิจทางหนึ่งจะมีการกระจายเม็ดเงินหมุนเวียนจากกิจกรรมการเลือกตั้ง แต่อีกทางหนึ่งนักลงทุนคงรอดูสถานการณ์หลังการเลือกตั้งเพื่อให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากเหตุการณ์การเลือกตั้งผ่านไปด้วยความราบรื่น และมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่มีเสถียรภาพเข้ามาบริหารประเทศได้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2562 เป็นต้นไป จะสร้างความเชื่อมั่นและส่งผลดีต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเบิกจ่ายเงินงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2563 ที่จะมีความต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นที่คาดการณ์ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเร่งผลักดันนโยบายเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโตดีขึ้น อันน่าจะเป็นภาพเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ไว้ที่ร้อยละ 4.0 โดยมีกรอบประมาณการที่ร้อยละ 3.5-4.2

 

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment