ตลาดหุ้นไทยหมดภาวะอึมครึม หลังผลการตัดสินคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ออกมาในลักษณะไม่ไล่ต้อนให้จนมุม แต่สถานการณ์จากนี้ไปยังต้องจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่จะนัดชุมนุมวันที่ 14 มีนาคม 2553  ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาแม้จะเกิดเหตุบอมบ์หลายจุดแต่ไม่มีใครได้รับอันตราย คาดว่าเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ ไม่มีเหตุรุนแรง

            ภาพตลาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่างชาติยังซื้อต่อ โดยเฉพาะวันศุกร์ มูลค่าการซื้อขายที่แน่นขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านบาท จากแรงโหมซื้ออย่างต่อเนื่องของทั้งฝรั่งและกองทุนในประเทศ ถือว่าภาพรวมค่อนข้างสดใสในสัปดาห์นี้ เพียงแต่มีการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้นกลุ่มพลังงานจำนวนมาก ทำให้จะมีแรงขายทำกำไรกดดันตลาด น่าจะเป็นจังหวะเข้าเก็บหุ้นเด่นๆ เช่น กลุ่ม PTT กลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะ SCB-KBANK น่าสนใจเมื่อราคาอ่อนตัว

            ปัญหาใหญ่ของสัปดาห์นี้ เป็นเทศกาลปันผล และขึ้นเครื่องหมาย XD สัปดาห์นี้มีทั้งหมด 19 บริษัทที่เด่นๆคือ ครอบครัวปตท.(PTT PTTCH PTTAR TOP & BCP) รวมถึง EGCO HANA CCET & LPN ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกัน ~ 1 ล้านลบ. (18% ของตลาด) หากให้ปัจจัยอื่นคงที่ และให้ราคาหุ้นที่ขึ้น XD ลดลงเท่ากับปันผลที่จ่าย ผลให้ SET ในทางทฤษฎีลบไป 3 จุด (0.4%)

            ต่างประเทศ ดาวน์โจนส์ขึ้น แต่ NYMEX ลง มีข่าว AIG ขายกิจการ AIA ในเอเชียให้ Prudential ของอังกฤษ มูลค่าถึงUSD3.5 หมื่นล้าน จะเป็นตัวช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และการที่กลุ่ม EU ใกล้ได้ข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่กรีซ หนุนก็หนุนให้ดาวน์โจนส์เมื่อวันจันทร์ปิดบวกถึง 80 จุด (0.8%) ตรงข้ามกับราคาน้ำมัน NYMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงเกือบ USD1/bbl (1.2%) @ USD78.70/bbl หลังดัชนีภาคการผลิตขยายตัวน้อยกว่าคาดและโยกเงินไปเก็งกำไรที่เงินดอลลาร์แทน

            เหตุการณ์ที่น่าสนใจ

            วันนี้กระทรวงพาณิชย์จะเผยเงินเฟ้อ (CPI) เดือน ก.พ.10 นักวิเคราะห์มองว่า ไม่น่ามีอะไรตื่นเต้น คาดทั้งปีอยู่ในกรอบ 3-4% ส่วนวันพฤหัสฯ นี้คาดธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) & ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประกาศเรื่องอัตราดอกเบี้ย แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% & 1% ตามลำดับ เพราะเศรษฐกิจยังไม่แข็งแรงพอ ดอกเบี้ยต่ำจึงจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ

            หุ้นเด่น PTTEP

            มุมข่าว 

            - โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เริ่มการผลิตก๊าซฯ ของ PTTEP เริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นครั้งแรก สนองตอบความต้องการก๊าซฯ ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 10 และรองรับความต้องการใช้ก๊าซฯ ในประเทศไทยได้อย่างน้อยอีก 16 ปี

            - บ.ย่อยใน ออสเตรเลีย ประสบความสำเร็จ เจาะหลุมสำรวจ Oliver-2  พบก๊าซธรรมชาติ เชื่อสร้างโอกาสขยายการลงทุนในอนาคต

            บล.ฟิลลิป ให้ราคาพื้นฐานที่ 178 บาท แนะนำ 'ซื้อ'

 TUF หุ้นตอบรับเรื่อง XD ไปแล้ว น่าสะสมรองรับอัตราการเติบโตโดดเด่น

ผู้บริหารตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2553 เติบโต 12% และรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 15% โดยเน้นเรื่องการพัฒนาและขยายสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น พร้อมกับออกผลิตภัณฑ์ใหม่หรือทำบรรจุภัณฑ์แบบใหม่สำหรับตลาด Niche Market เช่น ตลาดอาหารปรุงสำเร็จ มากขึ้นที่แม้จะไม่ใช่ตลาดหลักของ TUF แต่มีมูลค่าเพิ่มสูงและมีแนวโน้มเติบโตดี คาดยอดขายผลิตภัณฑ์จากกุ้งในปี 2553 มีแนวโน้มเติบโตดีมากกว่า 20% ในขณะที่ผลิตภัณฑ์หลักอย่างทูน่ายังเติบโตได้ในระดับ 8%-10% ประกอบกับโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต (New Platform) ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ปี 2552 โดยสามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นเป็น 15% จาก 13% ในปีก่อนจะช่วยรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีไว้ (Sustainable Margin) ไว้ที่ระดับ 15%         

            บล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 42 บาทต่อหุ้น อิง PER ปี 53 ที่ 10.0 เท่า

---------------------------------------

Written by :

Nike_mand

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment