Error
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง785.91จุด
Print
Wednesday, 04 March 2020 08:47

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) ที่ 25,917.41 จุด ร่วงลง 785.91 จุด หรือ -2.94% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,003.37 จุด ลดลง 86.86 จุด หรือ -2.81% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,684.09 จุด ลดลง 268.08 จุด หรือ -2.99% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินลง 0.50% เมื่อวานนี้ อาจสะท้อนให้เห็นว่าผลกระทบของไวรัสโควิด-19 มีความรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จนทำให้เฟดตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยก่อนที่การประชุมตามกำหนดการจะมีขึ้นในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% จากระดับ 1.50-1.75% สู่ระดับ 1.00-1.25% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน ก่อนที่การประชุมตามกำหนดการของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 17-18 มี.ค. และถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ยนอกรอบการประชุมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการเงิน

ทั้งนี้ คณะกรรมการ FOMC ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า การที่เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ จึงทำให้เฟดตัดสินใจดำเนินการดังกล่าว

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์สตราเทจิก บอร์ด โซลูชั่นส์ ในรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นหลังจากเฟดสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดาวโจนส์ก็เคลื่อนตัวสู่แดนลบ และปิดตลาดร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลว่า การที่เฟดปรับลดดอกเบี้ยนอกรอบการประชุมเช่นนี้ อาจสะท้อนให้เห็นว่า ผลกระทบของไวรัสโควิด-19 อาจร้ายแรงกว่าที่คิด ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทคิวเอส อินเวสเตอร์ส แสดงความเห็นว่า นโยบายการเงินอาจไม่ได้ช่วยเยียวยาผลกระทบของไวรัสโควิด-19 เพราะแม้ว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินจะส่งผลดีต่อบรรยากาศทางเศรษฐกิจในระยะสั้นๆ แต่เมื่อการแพร่ระบาดเข้าสู่ช่วงวิกฤตที่รุนแรงถึงขีดสุด ความไม่แน่นอนและความผันผวนก็จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 4/2562, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ., ยอดนำเข้า,ส่งออก และดุลการค้าเดือนม.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค.

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment