Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Daily Research ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคทีบี
ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคทีบี PDF Print E-mail
Wednesday, 30 August 2017 09:15

“ คาดมีแรงขายทำกำไร แต่คาดดัชนีฯปิดบวกได้ ”

 

ทิศทางตลาดหุ้นไทย : การสูงขึ้นของดัชนีฯ ถึง 28 จุด หรือ 1.8% วานนี้ มาจากหลายๆปัจจัย โดยเฉพาะการอยู่ในสถานะชะลอการลงทุนในตลาด เมื่อเกิดแรงซื้อและผ่านแนวต้านสำคัญ 1590-1600 จุด จึงกระตุ้นให้มีแรงซื้อตาม ด้วยปัจจัยตลาดวันนี้ ที่ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง คาดจะยังมีแรงดันให้ดัชนีฯสูงขึ้น แต่ก็จะมีแรงขายทำกำไรช่วงสั้นๆเข้ามาในตลาดด้วยเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน : มีการพลิกกลับของตลาดแบบที่ไม่มีใครคาดคิด วันนี้ คำแนะนำจึงควรดูทิศทางตลาดเพื่อรอ follow ตาม ถ้าขึ้นต่อแบบไม่หยุด แต่ถึงกระนั้น นักลงทุนที่ไม่ต้องการเสี่ยงอาจถือหุ้นไว้ก่อน เพื่อรอขาย การสูงขึ้นของตลาดรอบนี้ จาก 1556 จุด ขึ้นมา หลักๆ มาจาก 4 กลุ่มคือ ธนาคาร-พลังงาน-ปิโตรเคมี-โรงพยาบาล ถ้าดัชนีฯสูงขึ้นต่อ อาจมาจาก 4 กลุ่มนี้ หรือเป็นหุ้นใหญ่ๆของแต่ละกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่ใช่ 4 กลุ่มนี้

หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน: สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ  PTTGC, ADVANC, TMB, BEM*, MTLS, LPN

* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

 

บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ

(+) BCH คาดกำไรสุทธิ 3Q17 ทำ New High ด้วยหลายปัจจัยสนับสนุน

(+) HANA เตรียมขึ้นชั้น 2 สำหรับโรงงานที่ลำพูน 2 ในปลายปีนี้

(+) UTP ไลน์การผลิตกลับมาดำเนินงานปกติ หนุนกำไรปีนี้โต +66%

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (29 ส.ค.)  ปิดที่ระดับ 1,614.14 จุด เพิ่มขึ้น 28.35 จุด หรือ +1.79% มูลค่าการซื้อขาย 95,652.53 ล้านบาท มองว่า ก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติ underweight ตลาดหุ้นไทยมาโดยตลอด และจากปัจจัยการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น จึงมีแรงซื้อจากต้างชาติเข้ามา อีกทั้งดัชนียังผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,595 จุด

ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 21,865.37 จุด เพิ่มขึ้น 56.97 จุด หรือ +0.26% จากความตรึงเครียดในเกาหลีเหนือที่ผ่อนคลายลง พร้อมกับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาด .... ด้าน Stoxx Europe 600 ลดลง -0.5% ปิดที่ 372.29 จุด

นักลงทุนมองการเมืองสหรัฐฯเป็นบวกจากสถานการณ์เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์, ความกังวลด้านเกาหลีเหนือผ่อนคลายลง แม้สถานการณ์เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่นักลงทุนมองว่าปัจจัยดังกล่าวได้ช่วยให้ปธน.ทรัมป์และผู้นำสภาคองเกรสหันกลับมาเจรจากันเรื่องงบประมาณและการปรับเพดานหนี้มากขึ้นหลังจากที่มีปัญหาความคิดเห็นไม่ตรงกันก่อนหน้านี้ .... ด้านประเด็นเกาหลีเหนือเป็นบวกมากขึ้นหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ใช้ถ้อยคำรุนแรงในการตอบโต้เกาหลีเหนือ .... ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่เป็นบวกโดยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 122.9 ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 120.3 …. วันนี้ติดตามตัวเลข revised GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 2.36%

ราคาน้ำมันดิบ, ค่าเงินดอลลาร์ ยังเป็นลบต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ระดับ  13 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 46.44 ดอลลาร์/บาร์เรล .... ยังคงเป็นผลลบต่อเนื่องจากสถานการณ์เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ซึ่งส่งผลให้โรงกลั่นหลายแห่งในสหรัฐฯต้องปิดตัวลง กระทบต่อดีมานด์น้ำมันดิบ ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบค่าเงินสกุลหลักอีกด้วย

ครม. วานนี้มีอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามคาด ที่ประชุม ครม. วานนี้มีการอนุมัติมาตรการช่วยผู้มีรายได้น้อยภายใต้ชื่อ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ให้ผู้มีสิทธิ 11.67 ล้านคน ใช้งบประมาณเดือนละ 3,615 ล้านบาท หรือคิดเป็นปีละ 41,940 ล้านบาท เป็นบวกต่อหุ้นไทย

 

Stock in Focus

 

หุ้น                 เหตุผล

PTTGC

(ราคาปิด 78.25)     แม้ราคาปัจจุบันจะสูงกว่าราคาเหมาะสมของปัจจัยพื้นฐาน แต่ในเชิงกลยุทธ เรายังมอง PTTGC มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ จากการเก็งกำไรของนักลงทุนที่มองว่า Spread ปิโตรเคมียังอยู่แนวโน้มที่ดี เนื่องจากเรามองการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีกรอบจำกัด อีกทั้งการโอนกิจการ 6 บริษัทจาก PTT ตามโครงการ Asset Junction ยังเร็วกว่าคาดการณ์เดิม ซึ่งจะสามารถบันทึกมาเป็นกำไรได้ประมาณ 400-500 ล้านต่อไตรมาส เริ่มตั้งแต่ 3Q17 เป็นต้นไป …..   (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 77.00 บาท)

 

ADVANC

(ราคาปิด 188.00)    กลุ่ม ICT มีโวลุ่มเข้ามามาก เรามอง ADVANC ซึ่งเป็นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรมมีความน่าสนใจสูงสุด .... เรามอง ADVANC มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2018 เป็นต้นไป จากการคาดการณ์การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่เบาบางลง ….  (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่  190.00บาท)

 

TMB

(ราคาปิด 2.40)      สินเชื่อเดือน ก.ค. ทรงตัวเมื่อเทียบ MoM (ทำได้ดีกว่ากลุ่มที่ -0.9% MoM) และยังเติบโตได้ดีที่ 4.0% YTD ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อบ้านเป็นหลัก นอกจากนี้ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TMB จากกำไรสุทธิในปีนี้และปีหน้าที่จะเติบโตได้ดี 10% YoY เพราะมีรายได้ค่าธรรมเนียมจาก FWD เข้ามาช่วยปีละ 1.3 พันล้านบาท .... คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 8,459 ล้านบาท +2.8% YoY …. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่  2.60 บาท)

 

BEM*

(ราคาปิด 7.85)      มอง BEM มีความน่าสนใจจากมารตรการ ครม. วานนี้ ที่เห็นชอบระบบตั๋วร่วม หรือ e-ticket หรือบัตรแมงมุม ซึ่งในอนาคตสามารถใช้ร่วมกันทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร แอร์พอร์ตเรียลลิงค์ ....มีมุมมองในเชิงบวกต่อผลการดาเนินงานปี 2017 เนื่องจาก BEM จะรับรู้รายได้โครงการทางด่วนศรีรัชเต็มปี และผู้โดยสารที่ feed in เข้ามายังสายสีน้าเงินหลังจากที่จุดเชื่อมต่อบางซื่อ-เตาปูนได้เปิดให้บริการ Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017  ที่ 3,258 ล้านบาท (+16.6% YoY) (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg ที่ 8.42 บาท)

 

MTLS

(ราคาปิด 34.00)     ยังมอง MTLS เป็นหุ้นที่สามารถเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆ โดยล่าสุดกำไรสุทธิ 2Q17 ที่ 571.2 ล้านบาท (+90.2%YoY +6.5%QoQ) เติบโตได้ดีตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น .… คาดกำไรปี 2017 ที่ 2,340 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง +59.8% YoY  ….  (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 40.00 บาท)

 

LPN

(ราคาปิด 10.90)     ราคาปรับตัวลงมามากในช่วงก่อนหน้านี้ เริ่มเห็นสัญญาณกลับตัว มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ .... แม้กำไรสุทธิ 2Q17 ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่เราคาดว่า 4Q17 เราคาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากจะมีคอนโดใหม่โอนถึง 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,870 ล้าน .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 12.60 บาท)

Source: KTBST Research

 

ประเด็นสำคัญ : ข่าวและหุ้น

สถานการณ์เกาหลี - ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ออกมาใช้ถ้อยคำที่รุนแรงในการตอบโต้เกาหลีเหนือเหมือนครั้งก่อน โดยทรัมป์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐ "พร้อมใช้มาตรการทุกทาง" เพื่อตอบโต้เกาหลีเหนือ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่นในช่วงเช้าวานนี้

สถานการณ์เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อ่างเก็บน้ำแอดดิคส์ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำหลักของเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐ เริ่มมีระดับน้ำล้นขอบอ่างแล้ว ซึ่งสร้างความวิตกกังวลว่า น้ำในอ่างเก็บน้ำจะล้นทะลักเข้าท่วมชุมชนละแวกใกล้เคียง หลังจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์พัดถล่มรัฐเท็กซัสในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย

เศรษฐกิจสหรัฐฯ - ผลสำรวจของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 122.9 ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 120.3 หลังจากแตะระดับ 120.0 ในเดือนก.ค.ผลสำรวจเผยด้วยว่าผู้บริโภคมีมุมมองที่ดีต่อตลาดแรงงาน โดยผู้บริโภคที่มองว่ามีตำแหน่งงานอยู่มากมายในเดือนส.ค.นั้น ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 35.4% จาก 33.2% ในเดือนก่อนหน้า

เศรษฐกิจไทย - น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการประชารัฐสวัสดิการเพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยกำหนดผู้ได้รับสิทธิ 11.67 ล้านคน ที่จะได้รับการช่วยเหลือในด้านการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

เศรษฐกิจไทย - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) ปีนี้จะขยายตัวได้ในระดับ 3.5-4% หลังจากเศรษฐกิจไทยมีความเจริญเติบโตก้าวหน้าหลายประเด็น ทั้งเรื่องการค้า ส่งออกดีขึ้น โดยได้มีการกำหนดเป้าหมายการส่งออกปีนี้ที่ 5%

BEM-BTS – นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบระบบตั๋วร่วม หรือ e-ticket หรือบัตรแมงมุม ซึ่งในอนาคตสามารถใช้ร่วมกันทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร แอร์พอร์ตเรียลลิงค์ โดยรถเมล์ ขสมก. 800 คันแรกจะติดตั้งระบบตั๋วร่วมภายใน 1 ต.ค.นี้ และ 2,600 คันจะติดตั้งภายในต้นปี 61 หลังจากนั้นรถไฟฟ้าต่างๆ คือรถไฟฟ้าสายสีม่วง แอร์พอร์ตเรียลลิงค์ สายสีเขียว และสายสีน้ำเงินน่าจะติดตั้งภายใน ก.ค.61

EA – นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโต 27% จากปีก่อน จากการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีของโรงไฟฟ้า จ.พิษณุโลก กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่จ.สงขลาและนครศรีธรรมราช กำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ (โครงการหาดกังหัน 1-3) ซึ่งจะส่งผลทำให้สิ้นปีนี้บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตทั้งสิ้นอยู่ที่ 404 เมกะวัตต์

CHO – CHO เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.08 พันล้านบาท โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ปัจจุบันบริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 2.68 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ 1.05 พันล้านบาท

 

Analyst

Mongkol Puangpetra

+662 648 1123

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

Nontapat Rushtasomboon

+662 648 1127

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 30 ส.ค. 2560

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday11494
mod_vvisit_counterYesterday42687
mod_vvisit_counterAll days167228478

We have: 826 guests online
Your IP: 3.145.119.199
 , 
Today: Apr 17, 2024

4277208