Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Daily Research บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานตลาดหุ้น 01/02/53
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานตลาดหุ้น 01/02/53 PDF Print E-mail
Monday, 01 February 2010 10:12

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 01/02/53

คาดแค่ดีดกลับเป็นบวกช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะไหลลงต่ออีกครั้ง...
ตลาดหุ้นสหรัฐในท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แม้ว่า GDP 4Q09
ของสหรัฐฯ จะดีกว่าคาดมาก โดยขยายตัว 5.7% Q-Q โดยเป็นการบวกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่
2 แต่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น บริโภคภาคเอกชนยังค่อนข้างน่าผิดหวัง โดยต่ำกว่าไตรมาสก่อน
จากอัตราการว่างงานที่ยังสูง นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ ทำให้สินทรัพย์
เสี่ยงยังถูกดดัน รวมถึงตลาดหุ้นด้วย ดังนั้นแม้ว่า SET จะสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาปิดเป็นบวก
ได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ FSS คาดว่าเป็นแค่การรีบาวด์กลับช่วงสั้นๆ หลังจากนี้จะยังปรับตัว
ลงต่อเนื่อง และมีโอกาสสูงที่จะไหลหลุดลงไปต่ำกว่า 680 จุดได้ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงยังไม่แนะนำ
ให้กลับเข้าซื้อเร็วนัก แต่อาจเป็นลักษณะทยอยเลือกหุ้นเข้าซื้อเป็นรายตัวได้ในสัดส่วนที่ไม่มาก
เพื่อถือลงทุน เช่น หุ้นในกลุ่มที่คาดว่าจะจ่ายปันผลสูงได้แก่ BCP, AIT, TRT, SPALI, GFPT,
TMT, TVO, HANA, KSL เป็นต้น  

ประเด็นสำคัญวันนี้
เศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. ฟื้นตัวต่อเนื่อง…อิเล็คทรอนิคส์และยานยนต์โดดเด่น เศรษฐกิจ
เดือน ธ.ค. ขยายตัวดี การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวดีเพิ่มขึ้น 3.9% Y-Y จากรายได้เกษตรกร
ที่ดีขึ้น และการว่างงานที่ลดลง การลงทุนภาคเอกชนก็ขยายตัวเนื่องเป็นเดือนที่ 7 แต่ยังต่ำกว่า
ช่วงก่อนวิกฤต และเป็นการลงทุนเพื่อทดแทนเครื่องจักรเดิมที่เสื่อมสภาพ ยังไม่ใช่การลงทุนเพื่อ
ขยายกำลังการผลิต แต่ในบรรดาอุตสาหกรรมต่างๆ กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์และยานยนต์มีแนวโน้มที่
จะลงทุนเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ส่วนดัชนีภาคการผลิตขยายตัวถึง 10.4% M-M โดยขยายตัว
ในเกือบทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ขยายตัวโดดเด่นที่สุด มีกำลังการผลิตที่สูง
เป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับกลุ่มยานยนต์ (หุ้นกลุ่มนี้ที่เราแนะนำได้แก่ DELTA, HANA,
KCE, SVI, STANLY, SAT) เสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เริ่มเห็นความ
เสี่ยงในเรื่องเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และการตึงตัวของแรงงานในบาง
อุตสาหกรรม ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้นในอนาคต   
ติดตามเงินเฟ้อวันนี้ กระทรวงพาณิชย์ของไทยจะประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน
ม.ค. วันนี้ ซึ่ง Bloomberg consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% M-M จากราคาพลังงานที่เพิ่ม
ขึ้น และมาตรการของรัฐที่ลดความช่วยเหลือค่าน้ำลง โดยต่ออายุ 5 มาตรการช่วยเหลือประชาชน
ออกไปอีก 3 เดือน (หมด มี.ค.) แต่ลดน้ำฟรีเหลือ 20 ลบ.ม. จากเดิม 30 ลบ.ม. และเมื่อเทียบ
Y-Y ตลาดคาดว่าจะเพิ่ม 3.9% เป็นอัตราเร่งจากเดือนก่อนที่เพิ่ม 3.5% Y-Y ตัวเลขเงินเฟ้อที่
สูงอาจทำให้ตลาดกังวลเรื่องดอกเบี้ยและกดดันตลาดอีก หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อสูงคือ
TTW
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทไม่ตอบสนองข่าวดี GDP 4Q09 ของสหรัฐฯ ดีกว่าคาดมาก โดย
ขยายตัว 5.7% Q-Q (บวกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 เทียบกับ 3Q09 ที่เติบโต 2.2% Q-Q) ดีที่
สุดในรอบ 6 ปี สาเหตุหลักมาจากการลงทุนในด้านสินค้าคงคลังของเอกชน ซึ่งมีส่วนในการขยาย
ตัว (Contribution to GDP) ถึง 3.8% แต่สิ่งที่ยังน่าผิดหวังกลับเป็นการบริโภคภาคเอกชนซึ่ง
คิดเป็น 70% ของเศรษฐกิจ แต่ contribute to GDP เพียง 1.44% ต่ำกว่าไตรมาสก่อน จาก
อัตราการว่างงานที่ยังสูง สำหรับ GDP ทั้งปี 2009 หดตัว 2.4% เป็นการถดถอยรุนแรงที่สุดใน
รอบ 64 ปีนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ ยังมีรายงานเศรษฐกิจได้แก่ ISM ของรัฐ
ชิคาโก เดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นดีกว่าคาด และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากการสำรวจของ U of
Michigan เดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 2 ปี
ดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าต่อ สินทรัพย์เสี่ยงยังถูกดดัน แต่ปลายสัปดาห์อาจมีข่าวดี ตัว
เลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดเมื่อวันศุกร์โดยเฉพาะ GDP ทำให้ตลาดกังวลว่า Fed
อาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดและก่อนธนาคารกลางยุโรป เราคาดว่าดอลลาร์ยังแนวโน้มแข็งค่าต่อ
ในสัปดาห์นี้ เพราะความวิตกกังวลเรื่องฐานะหนี้สินของกรีซตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังเป็น
บรรยากาศที่ต่อเนื่องถึงสัปดาห์นี้ และอาจทำให้ S&P’s หรือ Moody’s ลดอันดับเครดิตประเทศ
อื่นเช่นโปรตุเกสได้อีก ซึ่งจะกดดันค่าเงินยูโรให้ลดลง ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นโดยอัตโนมัติ
ราคาสินทรัพย์เสี่ยงจึงยังไม่สดใสนักในสัปดาห์นี้ ยกเว้นปลายสัปดาห์ที่อาจมีลุ้นตัวเลขการจ้าง
งานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3 หมื่นราย เป็นการเพิ่ม
ขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 (เดือน พ.ย. เพิ่ม 4 พันราย)

Technical View : “เริ่มมีจังหวะดีดกลับจากแนวรับ 680 จุด ลุ้นทำกำไรตามแนวต้าน
ได้ สำหรับจังหวะเข้าเทรดดิ้งรอบใหม่ให้รอแถวจุดต่ำเดิม 669-666 จุด .. ส่วนระยะกลางยังรอ
เพิ่มพอร์ตอีกครั้งแถว 650 จุด(+/- เล็กน้อย)..”
แนวรับ    :   690-680* , 669-666** , 660     
แนวต้าน  :   698* , 705** , 710-715***

Technical Picks:
AP (Bt 4.90 เป้าเทคนิค 5.20-5.30 cut loss ถ้าหลุด 4.76)
STEC (Bt 5.30 เป้าเทคนิค 5.80-6 cut loss ถ้าหลุด 5.05)
TMB (Bt 1.27 เป้าเทคนิค 1.32, 1.40 cut loss ถ้าหลุด 1.22)               

Written by :
พิราบขาว
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday1096
mod_vvisit_counterAll days1096

We have: 1090 guests online
Your IP: 18.191.154.132
Mozilla 5.0, 
Today: Dec 02, 2024

4245648