“พอร์ต 5 หมื่นล้าน” ของเซียนตัวจริง |
Tuesday, 01 June 2010 11:43 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองทุนประกันสังคม"ผู้มั่งคั่งที่สุด” ของตลาดหุ้น กระแสหุ้นออนไลน์ ภายใต้เว็บไซต์ Stockwave ผู้ให้บริการข่าวออนไลน์เพียงรายเดียวที่ได้สืบค้นและสำรวจพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นของกองทุนขนาดใหญ่ทุกระดับของตลาดหุ้นไทย หลังจากที่ได้มีการเปิดพอร์ตลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ไปเมื่อครั้งก่อน ซึ่งมีเงินลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท และคาดว่า ณ เวลานี้มูลค่าพอร์ตก็น่าจะพุ่งสูงกว่านั้น หลังจากกองทุนในประเทศเริ่มเข้าไปช้อนซื้อหุ้นในยามที่ดัชนีหลักทรัพย์เริ่มปักหัวลงด้วยแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ แต่ทุกวันนี้น้อยคนนักที่จะล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของ “กองทุนประกันสังคม” ว่ากองทุนแห่งนี้ มีพอร์ตลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นไทย และยิ่งน้อยคนกว่านั้นที่จะรู้ว่า “พอร์ตหุ้น” ของกองทุนประกันสังคม มีมูลค่ามากมหาศาลร่วมๆ “5 หมื่นล้านบาท” ถึงขนาดที่สมัยรัฐบาลทักษิณก็จ้องขุมทรัพย์แห่งนี้ชนิดตาเป็นมัน ก่อนจะส่งเหยี่ยวสายตรงเข้ามาดูแลเงินลงทุนในกองทุนแห่งนี้ กระทั่งมีการตั้งข้อสังเกตุต่อผลของราคาหุ้นในกลุ่มชิน หรือการล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของเงินลงทุนในหุ้นแต่ละตัวอันนำมาซึ่งผลประโยชน์ทับซ้อนชนิดแยกไม่ออก...ที่ชาวบ้านธรรมดาไม่สามารถเข้าใจหรือเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ พอร์ตหุ้นที่มีมูลค่ามากขนาดนั้น คงไม่อาจปฏเสธได้เลยว่า "กองทุนประกันสังคม" คือ “เซียนตัวจริง” และถือเป็น “ผู้เล่นรายใหญ่” ที่การซื้อขายหุ้นแต่ละครั้งแทบจะสามารถกำหนดทิศทางและอนาคตของราคาหุ้นตัวนั้น และทิศทางดัชนีหุ้นไทยได้ในระยะหนึ่ง...และจะได้ผลเมื่อฝูงปลาซิวแห่ตาม แม้กระทั่งบางเวลากองทุนของรัฐรายนี้ก็ยังต้องขันอาสาเข้าไปทำหน้าที่ปกป้องและเป็น “องค์รักษ์พิทักษ์หุ้น” ในแต่ละสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่ลักษณะการลงทุนของกองทุนประกันสังคมจะเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่น้อยกว่า 60% ของมูลค่าเงินกองทุน ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล เงินฝากธนาคาร และตราสารหนี้ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันเงินลงทุนส่วนนี้มีอยู่ราว 5.46 แสนล้านบาท ขณะที่เงินลงทุนส่วนที่เหลืออีก 40% จะไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่างระดับกันไปทั้งในส่วนของหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ (วอแรนท์) และหน่วยลงทุน เป็นต้น ซึ่งกองทุนประกันสังคมมีมูลค่าเงินลงทุนในส่วนนี้มากถึง 6.88 แสนล้านบาท (มูลค่าสูงเนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับดีมาก) “ปัจจุบัน” พอร์ตหุ้นมูลค่า 48,600 หมื่นล้านบาท จากกองทุนประกันสังคม ถูกกระจายการลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 36 ตัว แต่น่าสนใจว่ามีหุ้นประเภท “บิ๊กแคป” อยู่เพียง 10 ตัว เท่านั้น ที่กินส่วนแบ่งเงินลงทุนไว้กว่า 70% หรือมูลค่าถึง 35,800 ล้านบาทของมูลค่าพอร์ตลงทุนทั้งหมดในตลาดหุ้นอันได้แก่ “ปตท.” (PTT) มูลค่า 6,900 ล้านบาท “ธ.ไทยพาณิชย์” (SCB) มูลค่า 5,282 ล้านบาท “ปูนซิเมนต์ไทย” (SCC) มูลค่า 4,691 ล้านบาท “ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม” (PTTEP) มูลค่า 4,558 ล้านบาท “ธ.กรุงเทพ” (BBL) มูลค่า 3,547 ล้านบาท “ธ.กสิกรไทย” (KBANK) มูลค่า 3,128 ล้านบาท “โรงไฟฟ้าราชบุรี” (RATCH) มูลค่า 2,591 ล้านบาท “เอไอเอส” (ADVANC) มูลค่า 2,084 ล้านบาท “บ้านปู” (BANPU) มูลค่า 1,511 ล้านบาท และ “ธ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์” (LH) อีก 1,504 ล้านบาท แน่นอนว่า บรรดาหุ้นขนาดใหญ่เหล่านี้ล้วนแต่เป็น “หุ้นปันผล” ในระดับแนวหน้าของกระดานหุ้น และมีความน่าสนใจต่อการขึ้นลงของราคาในทุกๆ รอบของการเล่นไม้สั้นและไม้ยาว โดยเฉพาะในเรื่องสภาพคล่องของหุ้นที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือ รวมถึงยังถือเป็นกลุ่มหุ้นในอุตสาหกรรมหลักของประเทศที่มีชะตากรรมเดียวกับภาวะเศรษฐกิจภาพรวม ขณะที่ “โรงไฟฟ้าโกลว์ พลังงาน” (GLOW) “ซีพีเอฟ” (CPF) “ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์” (TUF) “ธ.กรุงศรีอยุธยา” (BAY) ก็ล้วนแต่เป็นบิ๊กแคปที่องค์รักษ์หุ้นรายนี้ได้ “ถมเงิน” เข้าไปลงทุนในแต่ละตัว มากกว่าระดับ 1,000 ล้านบาท และนอกเหนือจากนั้น ก็ยังคงเป็นการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่มีความมั่นคงทางการเงิน มีปันผลต่อเนื่อง มีโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างราคา เพราะล้วนแต่เป็นหุ้นที่มองเห็น ”อนาคต” ทั้งในกลุ่มสถาบันการเงิน ค้าปลีก และโรงไฟฟ้า ได้แก่ “ธนาคารกรุงไทย” (KTB) “ซีพีออลล์” (CPALL) “สยามแม็คโคร” (MAKRO) “ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป” (TISCO) “ไออาร์พีซี” (IRPC) และ “ผลิตไฟฟ้า” (EGCO) เป็นต้น นี่คือ “เซียนหุ้นตัวจริง” ที่มีมูลค่าพอร์ตลงทุนร่วมๆ 5 หมื่นล้านบาท และยังจะโตขึ้นอีก
|
Today | 538 | |
All days | 538 |
Comments