เตือนแล้วไม่ฟัง ก็ระวังเจอข้อหาปั่นหุ้น!!
|
|
|
|
Wednesday, 16 June 2010 07:47 |
ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่าการให้ข่าวว่าจะใช้ช่องทาง อสมท ซื้อดาวเทียมไทยคมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะ อสมท เป็นบริษัทมหาชน ดังนั้น หากรัฐบาลมีความตั้งใจจะซื้อดาวเทียมไทยคมจริง จึงไม่ควรให้ข่าว เพราะจะส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น และต้องใช้เงินภาษีประชาชนมากขึ้นในการซื้อคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ (15 มิ.ย.53) นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และกรรมการ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลมีแนวคิดซื้อดาวเทียมไทยคมคืนจากกองทุน เทมาเส็กของสิงคโปร์ โดยวางแผนให้มีการระดมทุนตั้งกองทุนไทยคมให้คนไทยถือหุ้น หรือให้บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เข้าซื้อ โดยขณะนี้ไม่อาจบอกได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่กับกรณีนี้ เพราะข้อมูลทั้งหมดยังไม่เพียงพอ รัฐบาลต้องมีการศึกษาและวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียในการซื้อหุ้นไทยคมก่อนว่า เป็นอย่างไร มีความคุ้มค่าในทุกมิติหรือไม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และการบริหารจัดการ โดยต้องศึกษาว่าควรให้สัมปทานแก่ภาคเอกชนดำเนินกิจการ หรือควรอยู่ในรูปแบบรัฐวิสาหกิจ อีกทั้งควรพิจารณาว่า กิจการเหล่านี้จะจำกัดเฉพาะนักลงทุนในประเทศหรือไม่ โดยเราต้องคำนึงว่าเทคโนโลยีทางด้านนี้ของไทยเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ยังต้องพิจารณามิติที่มีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม มิติความมั่นคง และมิติทางด้านนโยบาย เพื่อศึกษาว่าจะชูนโยบายชาตินิยมทางเศรษฐกิจ มุ่งสู่ความเป็นโลกาภิวัตน์ หรือเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจภูมิภาคและโลก อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมิติไหน เราต้องพิจารณาโดยองค์รวม คือ บูรณาการทุกมิติ เพื่อพิจารณาในการตัดสินใจซื้อเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและ ประชาชน โดยรัฐบาลต้องยึดหลักการนี้อย่างมั่นคง และไม่ควรนำเรื่องนี้มาหาเสียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เพราะกรณีนี้ต้องใช้เงินภาษีประชาชนไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ดังนั้น รัฐบาลควรพิจารณาให้รอบคอบ
ดร.อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะกรรมการ อสมท . การให้ข่าวว่าจะใช้ช่องทาง อสมท ซื้อดาวเทียมไทยคมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะ อสมท เป็นบริษัทมหาชน การจะซื้อหรือไม่ซื้อจึงเป็นเรื่องของกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้น และต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย การให้ข่าวหรือให้ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทมหาชนต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายและกฎสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดังนั้น หากรัฐบาลมีความตั้งใจจะซื้อดาวเทียมไทยคมจริง จึงไม่ควรให้ข่าว เพราะจะส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น และต้องใช้เงินภาษีประชาชนมากขึ้นในการซื้อคืน ขณะเดียว อาจเป็นช่องทางให้เกิดการทำ Insider Trading คือ บุคคลภายในอาจทราบข้อมูลภายในของบริษัทและใช้ข้อมูลดังกล่าวอย่างไม่เหมาะสม ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ควรเปิดเผยข้อมูลจนกว่าจะมีข้อสรุปตามขั้นตอนทางกฎหมายเพราะจะทำ ให้มีคนได้คนเสีย และจะก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี
ที่มา สำนักข่าวไทย
|
Comments