ธนาคารไทยพาณิชย์ยกระดับโครงสร้างยุทธศาสตร์ทางด้านองค์กร ยึดหลักสำคัญ “ลูกค้าคือหัวใจ” เดินหน้าตอกย้ำพันธกิจ The Premier Universal Bank ชั้นนำของประเทศด้วยผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่มีคุณภาพ    ชั้นเลิศและครบวงจรแก่ทุกกลุ่มลูกค้าหลัก เพื่อรองรับการแข่งขันและก้าวย่างที่มั่นคงสู่การเป็น The Bank of Choice หรือ “ธนาคารที่ทุกคนเลือก”

             ดร. วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์มีการดำเนินงานด้วยการตอบสนองความต้องการของทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน และสังคมอย่างดีที่สุด เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็น The Bank of Choice หรือธนาคารที่ทุกคนเลือก และเพื่อให้เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพธุรกิจในปัจจุบันที่มีแนวโน้มการแข่งขันสูงและรุนแรงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งความต้องการ    อันหลากหลายของผู้บริโภค ธนาคารจึงมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางองค์กรโดยยึดถือเรื่อง “ลูกค้าคือหัวใจ” เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ “ตรงกับความต้องการของลูกค้า” มอบบริการอันเป็นเลิศจาก “บุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ” เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับ “ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมาตรฐานระดับโลก” เป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์

             และตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารได้วางแผนการปรับองค์กรในส่วนที่เป็นทัพหน้าซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการดำเนินธุรกิจของธนาคาร โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ตลอดจนเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคลากรได้แสดงความสามารถในการบริหารงานอย่างเต็มที่ โดยแต่ละกลุ่มเน้นการแบ่งความรับผิดชอบที่ชัดเจน จัดกลุ่มงานที่มีลักษณะเฉพาะตัวมากขึ้น และพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถขึ้นมาบริหารงานแต่ละกลุ่มเพื่อการดูแลลูกค้าที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งได้เริ่มดำเนินงานตามโครงสร้างใหม่แล้วสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจเป็นกลุ่มแรก และอีก 3 กลุ่มที่เหลือจะสามารถดำเนินการภายใต้โครงสร้างใหม่ได้ภายในวันที่ 1 มกราคม 2554 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 1) กลุ่มลูกค้าธุรกิจ (Business Banking Group) รับผิดชอบการให้บริการทางการเงินแบบครบบวงจรแก่กลุ่มลูกค้า SME ที่มียอดขายตั้งแต่ 10-500 ล้านบาทต่อปี               ซึ่งเป็น กลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่น่าจับตามองและมีความสำคัญยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน โดยกลุ่มธุรกิจนี้ได้มีการปรับโครงสร้างและเริ่ม     ดำเนินงานแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารงานของรองผู้จัดการใหญ่             นายศิริชัย สมบัติศิริ

 2) กลุ่มลูกค้าบุคคล (Retail Banking Group) รับผิดชอบดูแลกลุ่มลูกค้าบุคคล      โดยรวมและลูกค้าธุรกิจ SSME โดยธนาคารเป็นผู้นำธุรกิจในธุรกิจลูกค้าบุคคล          และไม่หยุดยั้งที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครบวงจร อาทิ เงินฝาก การลงทุน ประกัน สินเชื่อเคหะ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อรถยนต์ ทั้งยังให้ความสำคัญกับ  ความสะดวกสบายของลูกค้าผู้ใช้บริการด้วยจำนวนเครือข่ายสาขาและตู้เอทีเอ็ม           ที่มากที่สุดเพื่อตอบรับกับความต้องการและรูปแบบการดำเนินชีวิตของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นำทีมบริหารโดย รองผู้จัดการใหญ่ นายญนน์ โภคทรัพย์

 3) กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ (Wholesale Banking Group) ดูแลกลุ่มลูกค้าธุรกิจ      ขนาดใหญ่และธุรกิจข้ามชาติ มีลูกค้าครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรมหลักของประเทศ รวมถึงกลุ่มลูกค้าภาครัฐ โดยธนาคารให้บริการกับลูกค้ากลุ่มนี้ในแบบครบวงจร (Total Solution Provider) ทั้งทางด้านสินเชื่อการเงิน และผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน     ที่หลากหลาย รวมถึงบริการที่ปรึกษาทางการเงิน และถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพการเติบโตของสินเชื่อสูงสุด กลุ่มธุรกิจนี้นำทีมบริหารงานโดยรองผู้จัดการใหญ่ นายอาทิตย์   นันทวิทยา

 4) กลุ่มธุรกิจพิเศษ (Special Assets Group) เป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญในการให้ คำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารจัดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกค้ารายที่อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ โดยให้การดูแลลูกค้าตั้งแต่ช่วงแรกที่สถานะทางการเงินอาจได้รับผลกระทบ เพื่อการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขได้ทันท่วงที ตลอดจนการเข้าแก้ไขจัดการหนี้ที่มีปัญหา นำทีมบริหารงานโดย นายศรัณย์ทร ชุติมา ซึ่งได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นรองผู้จัดการใหญ่ ในการปรับโครงสร้างครั้งนี้

            ทั้งนี้ แต่ละกลุ่มธุรกิจจะมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแลลูกค้าอย่างชัดเจน มีความคล่องตัวในการบริหารงาน ขณะเดียวกันยังคงทำงานประสานความร่วมมือระหว่างกันเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่มีมาตรฐานระดับโลก (World Class) ภายใต้กรอบนโยบายหลักของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีกลุ่มงานสนับสนุนอื่นๆ (Shared Services Groups) อาทิ ทรัพยากรบุคคล การเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศ บริหารความเสี่ยง เป็นต้น ทำหน้าที่ให้การสนับสนุนเพื่อให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพสูงสุด

             การปรับโครงสร้างทางด้านกลุ่มงานธุรกิจในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการ “เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน” ที่มีมาก   ยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นไปตามนโยบายของธนาคารที่จะ “ตอบสนองความต้องการของลูกค้า” ด้วยความเชี่ยวชาญรู้จริง    ในธุรกิจ เปิดโอกาสให้บุคลากรได้แสดงศักยภาพและทักษะทางธุรกิจด้วยความรับผิดชอบที่ชัดเจน เป็นการ “สนับสนุนความเจริญเติบโตของพนักงาน” และเปิดโอกาสให้บุคลากรที่มีความสามารถนำความรู้ความชำนาญมาใช้              ในการบริหารธุรกิจ และเป็นส่วนหนึ่งในการสานต่อพันธกิจ The Premier Universal Bank  และธนาคารเชื่อมั่นว่า       การปรับกลยุทธ์โครงสร้างองค์กรในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกรายและมุ่งสู่จุดหมายการเป็นธนาคารที่ทุกคนเลือกร่วมกัน

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment