ไทยพาณิชย์คาดกนง.คงดอกเบี้ยสกัดเงินไหลเข้า |
Friday, 05 November 2010 13:53 | |||
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) ออกบทวิเคราะห์เรื่อง "ธนาคารกลางสหรัฐฯ อัดฉีดสภาพคล่อง 6 แสนล้านดอลลาร์" โดยระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศจะอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเข้าซื้อตราสารหนี้ภาครัฐอีก 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากช่วงนี้ไปจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2011 เนื่องจากอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังช้าเกินไป ความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด (deflation) และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับสูง บทวิเคราะห์ระบุว่า 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่าที่ตลาดคาด จากผลสำรวจนักวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ ตลาดคาดว่าเฟดน่าจะอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมอีกราว 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฟดอาจต้องเข้าซื้อตราสารหนี้ภาครัฐเฉลี่ยสูงถึงราว 1.1 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากจำนวนเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังกล่าวแล้ว เฟดยังมีเงินที่จะได้รับจากตราสารหนี้เกี่ยวกับการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ (proceeds of mortgage payment) ที่เฟดซื้อไว้ในช่วงการอัดฉีดสภาพคล่องก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ในช่วง 8 เดือนข้างหน้า (พ.ย. 2010 – มิ.ย. 2011) เฟดจะต้องซื้อตราสารหนี้ภาครัฐทั้งหมดถึง 8.5-9.0 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเดือนละประมาณ 1.1 แสนล้านดอลลาร์ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ คงมุมมองว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่องไปอีก การอัดฉีดสภาพคล่องดังกล่าวจะทำให้มีเงินทุนไหลมายังภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทางตะวันตก โดยเฟดยังคงยืนยันท่าทีว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำไปอีกนาน ซึ่งจะทำให้ค่าเงินสกุลต่างๆ ในภูมิภาคน่าจะแข็งค่าขึ้น เราคงมุมมองว่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าไปอยู่ต่ำกว่า THB 28 /USD ภายในปลายปีหน้า ทั้งนี้ โอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ยิ่งน้อยลงไปอีก จากแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทดังกล่าว แม้ว่าล่าสุด ธปท. จะออกมาส่งสัญญาณว่ามีความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดปัญหาฟองสบู่ในราคาอสังหาริมทรัพย์ แต่การที่ ธปท. ออกมาระบุว่าอาจมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับการปล่อยกู้สำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์บางประเภท ซึ่งเป็นมาตรการที่เฉพาะเจาะจงกว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้เราคงมุมมองว่า ธปท. ไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปีนี้ (1 ธันวาคม 2010)
|
Today | 743 | |
All days | 743 |
Comments