บัวหลวงฟันธงปี55จีดีพีไทยโต5%ไม่ยาก |
![]() |
![]() |
![]() |
Tuesday, 31 January 2012 15:45 | |||
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กิจการต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "เศรษฐกิจไทยภายใต้วิกฤติการเงินยุโรป"ว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทย(GDP) ในปี 2555 คาดว่าจะขยายตัวที่ประมาณ 5% สูงกว่าปี 54 ซึ่งขยายตัวต่ำเพียง 1.8% จากความเสียหายเหตุอุทกภัย สำหรับเศรษฐกิจในปีนี้จะมีแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ภายในประเทศทั้งการบริโภค การลงทุน การใช้จ่ายภาครัฐและจากสินเชื่อที่ภาครัฐและเอกชนปล่อยกู้เพื่อการฟื้นฟูซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกเป็นหลัก มากกว่าการขยายตัวส่งออกที่มีความเสี่ยงชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯและกลุ่มยุโรปยังคงซบเซา ส่วนช่วงครึ่งปีหลังต้องพึ่งพาการลงทุนภาครัฐและการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงภาคธุรกิจในไทย โดยแรงส่งภาครัฐที่สำคัญ คือ โครงการที่ลงทุนที่เกี่ยวกับน้ำและการบริหารจัดการน้ำ ประมาณ 3.0-3.5 แสนล้านบาท โครงการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ 2.3 ล้านล้านบาท และโครงการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ (Soft Loan) เพิ่มเติมอีก 3 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4/55 คาดว่าจะเห็นการขยายตัวของ GDP สูงมากที่ระดับ 7-8% ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากฐานของระยะเดียวกันปีก่อนอยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจทั้งปีให้เติบโต 5% ได้ไม่ยาก “จีดีพีที่ 5% ปีนี้ทำได้ไม่ยาก แต่ที่ต้องระวังความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเศรษฐกิจยุโรปมีโอกาสที่จะเกิดวิกฤติอีกรอบ หลังจากสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด เหลือขยายตัวเพียง 0.2% และอาจจะถึงขั้นติดลบ ขณะที่ปัญหาด้านการคลังเริ่มลุกลามไปยังประเทศที่มีหนี้"นายกอบศักดิ์ กล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนต้องปิดความเสี่ยงในฐานะเงินตราต่างประเทศให้ดี เนื่องจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกยังกระทบต่อทิศทางอัตราแลกเปลี่ยน โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทเคลื่อนไหวระหว่างระหว่าง 31-31.90 บาท/ดอลลาร์ และกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วในระยะสั้น ที่ระดับ 31 บาท/ดอลลาร์ฐ ซึ่งจะเป็นลักษณะนี้ตลอดทั้งปี ขณะที่ นโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดว่าจะบริหารอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ทรงตัวที่ระดับ 3.00% ต่อปี ไปจนถึงปลายปีนี้ ยกเว้นเกิดปัญหาเศรษฐกิจยุโรปทรุดตัวมากกว่าที่คาดไว้ นอกจากนั้น เศรษฐกิจไทยยังมีแรงสนับสนุนทางอ้อมจากการขยายตัวของเอเชียอย่างต่อเนื่องและต่อจากนี้จะเริ่มมีการรวมตัวกันทางธุรกิจมากขึ้นในการรวมกลุ่มประชาคมเซียน(AEC) ซึ่งจะเป็นปัจจัยดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา เห็นได้จากปี 53 เม็ดเงินลงทุนตรงเข้ามาในเอเชียรวมกว่า 12,527 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ครึ่งปีแรกของปี 54 อยู่ที่ 7,207 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นอัตราการลงทุนที่สูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจซึ่งภาคธุรกิจจะต้องเริ่มเตรียมการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
|
![]() | Today | 782 |
![]() | All days | 782 |
Comments