MKโชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกเติบโต61.64% |
![]() |
![]() |
![]() |
Wednesday, 16 May 2012 14:24 | |||
มั่นคงเคหะการฟื้นตัวจากอุทกภัย โชว์ยอดรับรู้รายได้เติบโต 61.64% จากไตรมาสที่ผ่านมา ด้านกำไรเบื้องต้นเพิ่มสูงขึ้น 52.82% พร้อมโชว์ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีก 1,380 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1/2555
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ผู้พัฒนาโครงการ “ชวนชื่น” และ “สิรีนเฮ้าส์” เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2555 ว่า บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายและบริการ จำนวน 373.74 ล้านบาท ลดลง 7.87% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้ 405.68 ล้านบาท แต่เพิ่มสูงขึ้น 61.64% จากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 231.22 ล้านบาท เนื่องจากปลายปี 2554 ที่ผ่านมาเกิดปัญหาอุทกภัย โครงการหลักที่สร้างรายได้ในไตรมาสนี้ ได้แก่ ชวนชื่นเพชรเกษม, ชวนชื่นโมดัส เซนโทร และชวนชื่นประชาอุทิศ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2555 บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (backlog) เท่ากับ 1,380 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 48% และคอนโดมิเนียม 52%
บริษัทฯ มีกำไรเบื้องต้น 148.93 ล้านบาท ลดลง 7.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 161.44 ล้านบาท แต่เพิ่มสูงขึ้น 52.82% จากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีกำไรเบื้องต้น 97.46 ล้านบาท โดยที่บริษัทฯ ยังรักษาความสามารถในการบริหารต้นทุนได้ดี เห็นได้จากอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น (Gross Profit Margin) ในไตรมาสนี้เท่ากับ 39.85% ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 39.79% และใกล้เคียงกับอัตราส่วนกำไรเบื้องต้นเฉลี่ยปี 2554 ซึ่งเท่ากับ 39.99% ในส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เท่ากับ 93.87 ล้านบาท ลดลง 6.48% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 100.37 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯ จ่ายโบนัสพนักงานน้อยกว่าปี 2554 หลังหักดอกเบี้ยและภาษีแล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 45.60 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2554 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 47.00 ล้านบาท และเพิ่มสูงขึ้น 73.18% จากไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 26.33 ล้านบาท โดยอัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ประจำไตรมาส 1/2555 เท่ากับ 11.99% ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 11.41%
ด้านฐานะการเงิน อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้เท่ากับ 0.39 เท่า ใกล้เคียงกับสิ้นปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 0.38 เท่า โดยมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 92.35 ล้านบาท จาก 6,773.18 ล้านบาทเป็น 6,865.53 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของหนี้สิน 46.75 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 45.60 ล้านบาท
|
![]() | Today | 1242 |
![]() | All days | 1242 |
Comments