'แมนูไลฟ์'จ่ายปันผลครั้งที่9 อีก 40 สตางค์ |
Monday, 18 June 2012 13:15 | |||
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด (“บลจ.แมนูไลฟ์”) ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล (MS-EQ DIV) ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอีก 0.40 บาทต่อหน่วยหลังจากที่เพิ่งจ่ายไป 1.25 บาทต่อหน่วยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการจ่ายครั้งที่ 9 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ซึ่งกองทุนจ่ายเงินปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 6.60 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราปันผลตอบแทนถึง 66.00% โดยในปัจจุบันหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวมีมูลค่า 10.3776 บาทต่อหน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิถุนายน) และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 15 มิถุนายน 2555 พร้อมจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 22 มิถุนายน 2555 นี้
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.แมนูไลฟ์ กล่าวว่า “การจ่ายเงินปันผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของปี ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2555 ก็ได้มีการปิดสมุดทะเบียนและจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 1.25 บาทต่อหน่วย รวมครึ่งปีนี้จ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 1.65 บาทต่อหน่วย แม้ว่าในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา SET index จะปรับตัวลดลงกว่า 100 จุด แต่ด้วยแนวทางการบริหารกองทุนและหลักการคัดเลือกหุ้นตามวิธีการของแมนูไลฟ์ ทำให้กองทุนยังมีผลตอบแทนที่ดีและสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ตามแนวทางที่เรากำหนดไว้ว่าจะจ่ายเป็นรายไตรมาสเพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
นายต่อกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนส่วนใหญ่ลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ไม่ว่าจะเป็น หุ้น หรือ สินค้าโภคภัณฑ์ก็ตาม เห็นได้จากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงราคาทองและราคาน้ำมัน อันเป็นผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปซึ่งยังไม่มีทางออกที่ชัดเจน โดยน่าจะส่งผลต่อภาวะการลงทุนและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี สำหรับการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย เราเชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนยังคงไม่ไหลออกไปไหน เพียงแต่อาจพักไว้ในตลาดที่มีความเสี่ยงและความผันผวนที่ต่ำกว่า เช่น ตลาดพันธบัตรและตลาดเงินในแถบภูมิภาคนี้ เพราะอัตราดอกเบี้ยทั้งในยุโรป (สำหรับประเทศที่ไม่มีปัญหาทางการเงิน) และสหรัฐอเมริกายังให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ เราก็ยังมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพจากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ หลังน้ำท่วมในปี 2554 ที่เร็วกว่าคาด และระดับเงินเฟ้อที่ควบคุมได้ รวมทั้งแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 15-20% จากการลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% และการบริโภคในประเทศ และที่สำคัญเราเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยไม่น่าจะได้รับผลกระทบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของยุโรปในครั้งนี้มากนัก
"หากตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากแรงเทขายที่เกิดจากความตื่นตระหนกของนักลงทุน หรือ Panic Sell น่าจะเป็นโอกาสในการทยอยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้น โดยท่านอาจพิจารณา กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล (MS-EQ DIV) เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งกองทุนนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนสม่ำเสมอและไม่มีเวลาติดตามตลาดหุ้นมากนัก หากท่านใดสนใจลงทุนในกองทุนดังกล่าว สามารถติดต่อมาที่ บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) โดยตรงหรือตัวแทนขายที่ได้รับแต่งตั้ง”
|
Today | 1767 | |
All days | 1767 |
Comments