ครม.ขยายวงเงินกู้สร้างเขื่อนนิคมอุตสาหกรรมจาก7เป็น15ปี |
Tuesday, 19 June 2012 18:23 | |||
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักรนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า จากสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นคณะรัฐมนตรีได้มีมติที่จะอนุมัติวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 15,000 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี ให้แก่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อทำเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ซึ่งในภายหลังก็ได้มีมติคณะรัฐมนตรีออกมาในเรื่องของการสนับสนุนเงินทุน โดยรัฐบาลออกให้ 2 ใน 3 เพื่อจัดทำเขื่อนรอบนิคมต่างๆ ขณะที่อีก 1 ใน 3 ให้เอกชนเป็นผู้กู้เงินมาทำ โดยในการประชุมครั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้นำเสนอให้ขยายระยะเวลากู้เงินจาก 7 ปี เป็น 15 ปี และให้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย โดยไม่ต้องจ่ายเงินต้นใน 5 ปีแรก
กระทรวงการคลัง ยังได้ประเมินวงเงินของผู้ประการในนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่ง ซึ่งได้แสดงความประสงค์ในการขอสินเชื่อตามมาตรการนี้ รวมไปถึงวงเงินชดเชย และเงินอุดหนุนที่รัฐบาลเป็นผู้ออก 2 ใน 3 ส่วน จะมีวงเงินกู้ทั้งจำนวน 2,429 ล้านบาท และกำหนดให้ปีที่ 6 ถึงปีที่ 15 ตามสัญญาการกู้เงิน ให้ผู้กู้ผ่อนจ่ายเงินต้นรวมดอกเบี้ยรายเดือนๆละเท่าๆกัน คิดเป็นวงเงินชดเชยรวม 15 ปี เท่ากับ 1,065 ล้านบาท ซึ่งลดลงมาจากมติคณะรัฐมนตรีในครั้งแรกที่ประเมินว่ารัฐบาลต้องชดเชยราว 4,000 ล้านบาทจี้ หน่วยงาน แจงงบ ครม.สัญจร ขีดเส้น 30 มิ.ย.
นายชลิตรัตน์ ยังได้แถลงถึงการติดตามการใช้งบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ 3 ครั้ง ได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.อุดรธานี และ จ.ภูเก็ต ของสำนักงบประมาณ ว่า ทั้ง 3 ครั้งดังกล่าว ที่ประชุมได้อนุมัติวงเงินสำรองจ่ายจากงบกลางเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของปีงบประมาณ 2555 จำนวน 71 โครงการ วงเงินรวม 3,075 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณกลางปี 2555 จำนวน 2,955 ล้านบาท และเป็นงบประมาณผูกพันปีงบประมาณ 2556 จำนวน 120 ล้านบาท
ทั้งนี้สำนักงบประมาณได้นำเรียนที่ประชุมว่า ส่วนราชการเจ้าของโครงการยังไม่ส่งรายละเอียดเพื่อรับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 16 โครงการ จึงขอให้รัฐมนตรีที่ดูแลหน่วยงานเหล่านั้นเร่งรัดให้ส่งรายละเอียดมาภายในวันที่ 30 มิ.ย.55 นี้ หากพ้นกำหนดดังกล่าวจะถือว่า ไม่ประสงค์จะขอรับการจัดสรรงบประมาณแล้ว
|
Today | 936 | |
All days | 936 |
Comments