บลจ.กรุงศรีขายกองทุนตราสารหนี้6เดือนชูผลตอบแทน 2.75% |
Tuesday, 23 July 2013 16:46 | |||
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M68(KFFIX6M68) อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายวันที่ 24-29 ก.ค.56 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท จ่ายผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี
กองทุน KFFIX6M68 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร Bank of China(สาธารณรัฐประชาชนจีน , สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 25% เงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank(สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% ตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 15% โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.75% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M68 (KFFIX6M68) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทน โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน"นายฉัตรรพี กล่าว
สำหรับภาวะตลาดโลกนั้น ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ในขณะที่ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของฝรั่งเศสลงสู่ AA+ จาก AAA และให้มุมมอง “มีเสถียรภาพ" หลังจากมูดี้ส์และเอสแอนด์พีได้ทำการปรับลดไปก่อนหน้านี้แล้ว ในส่วนของเอเชีย เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 7.5 ตามคาด ด้านอินเดียได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาดโดยการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 2 ประเภทขึ้นประเภทละร้อยละ 2 แต่คงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนไว้ดังเดิม นอกจากนี้ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ทำการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียลงร้อยละ 0.3 สู่ร้อยละ 6.3 ในปีนี้ และคาดว่าจะขายตัวร้อยละ 6.4 ในปีหน้า หลังจากที่ทำการปรับลดคาดการณ์จีดีพีของจีนลง
ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ภายในประเทศ เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีลักษณะชันขึ้นโดยอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นลดลงร้อยละ 0.01 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.01 – 0.02
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีปีนี้จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 5.1เหลือร้อยละ 4.2 แต่คงคาดการณ์จีดีพีสำหรับปีหน้าไว้ดังเดิม โดยเป็นผลจากการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งปรับลดลงจากร้อยละ7.4 สู่ร้อยละ 2 รวมถึงการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวในเกือบทุกภาคส่วน และธปท. ยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของปีนี้ลงสู่ร้อยละ 2.3 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 2.7 และคาดว่าเงินเฟ้อในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 2.7 เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันจะลดลง
|
Today | 677 | |
All days | 677 |
Comments