“น้อมบุญ”เชื่ออสังหาฯแนวราบศรีนครินทร์สดใส |
Friday, 16 August 2013 21:22 | |||
“น้อมบุญ” ไม่หวั่นตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว แม้กำลังซื้อหด สินเชื่อบ้านคุมเข้ม เชื่อดีมานด์ยังพุ่ง โครงการแนวราบกลุ่มบ้านจัดสรรยังสดใส ขานรับผลสำรวจยอดจดทะเบียนบ้าน 4 เดือนแรกปี 2556 เพิ่มขึ้น 39% ชี้มีการปรับตัวในแง่การพัฒนาโครงการมากขึ้น เดินหน้าโกยยอดขายสิ้นปี 500 ล้าน ชูบ้านต้นทุนเดิม ก่อนปรับราคาเพิ่ม 3-5%
นายมานะ จิระนภากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้อมบุญ จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านอสังหาฯ เปิดเผยว่า “แม้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่ก็เป็นเพียงแค่การปรับตัวระหว่างความต้องการและปริมาณสินค้าที่น่าจะเริ่มกลับสู่ภาวะสมดุลในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งตลาดอสังหาฯ โดยรวมครึ่งปีแรกยังมีการเติบโต ทั้งด้านยอดขายและรายได้ ซึ่งบริษัทฯสามารถทำยอดขายรวมได้ประมาณ 300 ล้านบาท ถือว่าได้รับการตอบรับจากตลาดในระดับที่ดีมาก โดยมี 2 โครงการที่เปิดขาย ได้แก่ ทาวน์โฮม เลอ เน็กซ์ตร้า ที่เริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ค. 2555 ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 48% เริ่มโอนตั้งแต่ ส.ค. 2555 ล่าสุดโอนแล้วกว่า 21% คาดว่าโครงการฯ จะแล้วเสร็จประมาณ ต.ค. ปีหน้า ส่วนบ้านเดี่ยวโครงการ เลอ นีโอ2 เปิดขายช่วงเดือน ก.ย. ในปีเดียวกัน มียอดขาย 82% ซึ่งเริ่มโอนตั้งแต่ปลายปี 2555 ตอนนี้โอนแล้ว 26% คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปีหน้าประมาณ มี.ค. โดยสาธารณูปโภค และพื้นที่ส่วนกลางของทั้ง 2 โครงการ ได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% มองว่านอกจากจุดเด่นและความแตกต่างที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดเดียวกัน ทั้งแง่การออกแบบดีไซน์ที่โดดเด่น การตกแต่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นฟังก์ชั่นการใช้สอยที่แตกต่างตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ได้ครบถ้วน อีกทั้งยังมีราคาที่สมเหตุผล บนทำเลที่ศักยภาพ ห่างจากทางขึ้น-ลงวงแหวนกาญจนาภิเษกเพียง 1 นาที และ 3 กม.จากสถานีศรีนครินทร์ ส่วนต่อขยายจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่สร้างความเชื่อมั่นในความคุ้มค่าให้กับลูกค้าแล้ว ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโดยรวม และการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ซื้อบ้านจากสถาบันการเงินที่มีดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ ก็มีผลช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่าตลาดอสังหาฯ จะเติบโตต่อเนื่องไปได้ เพราะยังคงมีอุปสงค์ในตลาด คาดภายใน ไตรมาส 4 เมื่อพ้นฤดูฝนไปแล้วกำลังซื้อจะกลับมาดีขึ้น ด้วยราคาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองสูงมาก คนตัดสินใจเลือกที่อยู่ในเขตชานเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะศรีนครินทร์ ที่เป็นแหล่งจ้างงาน และมีความสะดวกสบายในการคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ทางด่วนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 3 สุขสวัสดิ์ และพระราม 2 ทำให้เกิดซัพพลายใหม่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายต่างเข้ามาลงทุนตลาดอสังหาฯ แถบนี้อย่างคึกคัก ซึ่งจะดึงดูดให้ผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยใหม่หันมาสนใจทำเลนี้มากขึ้น แน่นอนว่าการแข่งขันในตลาดแถบนี้ก็จะสูงตามไปด้วย มั่นใจอสังหาฯ แนวราบศรีนครินทร์ ถือเป็นทำเลศักยภาพที่น่าลงทุนของโซนกรุงเทพฝั่งตะวันออก หลังจากย่านนี้ไม่เกิดน้ำท่วมในปีที่ผ่าน มูลค่าที่ดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นรวดเร็ว หากเทียบราคาต่อตารางเมตรระหว่างที่อยู่อาศัยแนวราบกับแนวสูงในย่านศรีนครินทร์ บ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮม ราคาจะอยู่ประมาณ 2-3 หมื่นบาท ซึ่งจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน พร้อมมีสภาพแวดล้อมที่ดี ส่วนคอนโดฯ ราคาจะเริ่มต้นประมาณ 5 หมื่นบาทขึ้นไป
ส่วนแผนบุกตลาดครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะมีการเปิดตัวบ้านฟังก์ชั่นใหม่ 4 ห้องนอน จอดรถได้ 3 คัน จับตลาดกลุ่มต่างไปจากเดิม คือกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ มีสมาชิกหลายคนอยู่ในบ้าน สามารถซื้อบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอ ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป อีกทั้งยังมีบ้านต้นทุนเดิมล็อตสุดท้ายมาจัดแคมเปญพิเศษราคาต้นทุนเดิม และเน้นทำการตลาดแบบ Below The Line เป็นหลัก โดยใช้ Digital Marketing เป็นช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พร้อมนำกลยุทธ์การบริหารสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (CRM) เพื่อสร้างฐานลูกค้าให้มั่นคงและช่วยให้เกิดการบอกต่อควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรม อาทิ Event on site และออกบูธแนะนำโครงการในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 29 ช่วง พ.ย. 2556 มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจและมาเยี่ยมชมโครงการมากขึ้น ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีนี้ 500 ล้านบาท และมั่นใจว่าโครงการ เลอ นีโอ2 สามารถปิดการขายทั้งหมด 76 ยูนิต ได้ภายในปีนี้แน่นอน ในอนาคต บริษัทฯ มีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ในที่ดินเปล่าที่เหลืออยู่ในบริเวณเดียวกัน คาดว่าจะพัฒนาโครงการโฮมออฟฟิศ และบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ต่อไป นอกจากนี้ยังเตรียมขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ โดยล่าสุดได้ซื้อที่ดินที่ขอนแก่นไว้แล้ว และอยู่ในระหว่างการสำรวจตลาดเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพให้ตอบโจทย์คนขอนแก่นให้มากที่สุด
ด้านต้นทุน บริษัทฯ ได้มีการเซ็นสัญญากับบริษัทรับเหมาก่อสร้างล่วงหน้า มีการจัดซื้อและล็อคราคาค่าวัสดุก่อสร้างในราคาต้นทุนเดิมไว้แล้วบางส่วน จึงสามารถชะลอการปรับราคาขึ้นออกไปอีกได้ซักระยะ อย่างไรก็ตามปัญหาค่าจ้างผู้รับเหมาที่ปรับราคาขึ้น เนื่องจากขาดแคลนแรงงาน และค่าวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น มีผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรงทำให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น หากจำเป็นต้องปรับราคาตามต้นทุน ก็จะปรับเพิ่มประมาณ 3-5% เท่านั้น” กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้อมบุญ จำกัด กล่าวทิ้งท้าย
|
Today | 763 | |
All days | 763 |
Comments