การบินไทยเจิมเครื่องบิน Freighter 2 ลำแรก
|
|
|
|
Tuesday, 27 April 2010 12:14 |
ฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ บริษัท การบินไทย จำกัด ( มหาชน ) (THAI)ได้จัดให้มีพิธีเจิมเครื่องบินขนส่งสินค้า รุ่นโบอิ้ง 777 – 200 LRF จำนวน 2 ลำ โดยมี พระเทพภาวนาวิกรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานในพิธีเจิม และมีนายปิย สวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ ร่วมในพิธี ณ บริเวณลานจอด หน้าอาคารคลัง สินค้า การบินไทย สุวรรณภูมิ
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เปิดเผยว่า ฝ่ายการ พาณิชย์ สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ บริษัท การบินไทยฯ (THAI)เริ่มให้บริการขนส่งสินค้าทาง อากาศด้วย เครื่องบินขนส่งสินค้า (Freighter) รุ่น โบอิ้ง 777-200 LRF จำนวน 2 ลำ ในเส้น ทาง ไป – กลับ กรุงเทพฯ - แฟรงก์เฟิร์ต สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน และ เส้นทาง กรุงเทพฯ – ฮ่องกง – อัมสเตอร์ดัม - กรุงเทพฯ สัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน ทั้งนี้การนำเครื่องบินโบอิ้ง 777- 200 LRF มาให้บริการนี้ เป็นการทำสัญญา Block Space (BSA) ทั้งลำระหว่างการบินไทย กับสายการบิน เซาท์เทิร์น แอร์ (SAI) โดยการบินไทยเป็นสายการบินแรกในภูมิภาคเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ ที่ให้บริการด้วย โบอิ้ง 777-200 LRF ใช้เครื่องยนต์แบบ GE90-110B1 ซึ่งเป็น มิตร ต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับการรับรองมาตรฐานเรื่องเสียง จึงสามารถให้บริการไปยังสนามบิน ต่างๆ โดยไม่ติดข้อจำกัดเกี่ยวกับมลพิษทางเสียงได้ทุกแห่งสามารถบรรทุกสินค้าได้ถึง 102 เมตริกตัน ต่อเที่ยว ระวางบรรทุกสามารถรองรับแผ่นบรรทุกสินค้ามาตรฐานได้ถึง 37 แผ่น และ มีพื้นที่ เก็บสินค้าที่ไม่ได้บรรทุกบนแผ่น/ตู้ (Bulk Cargo) อีก 17 ลูกบาศก์เมตร ประตูรับสินค้า บนชั้นบรรทุกหลักมีขนาดใหญ่ สามารถรองรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่พิเศษได้ ทั้งยังเหมาะสำหรับ การรับขนส่งสินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น การขนส่งสัตว์มีชีวิต และสินค้าประเภทวัตถุอันตราย ได้อย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าสดประเภท ผักผลไม้ ดอกไม้ และสินค้าประเภท IT เช่น ชิ้น ส่วนคอมพิวเตอร์ ฮาร์ตดิสก์ เครื่องบินขนส่งสินค้าโบอิ้ง 777-200 LRF นี้ สามารถตอบสนองความต้องการ ของตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของสภาวะเศรษฐกิจโลก ในการขนส่งสินค้าจากประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ไปสู่ยุโรปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มพื้นที่ระวางในการ ให้ บริการแก่ลูกค้าของ ไทยคาร์โก้ ได้มากขึ้น นอกเหนือจากพื้นที่ในการขนส่งสินค้า ใต้ท้องเครื่อง บินผู้โดยสาร ทำให้ลูกค้าของ ไทยคาร์โก้ มีช่องทางในการขนส่งได้สะดวก และรวดเร็วขึ้น ฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ คาดว่าการให้บริการด้วย เครื่องบินโบอิ้ง 777-200LRF 2 ลำดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ ของปี 2553 เพิ่มขึ้นเป็น 24,120 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 31% และมีอัตราการบรรทุก (Freight Load Factor) 53.6% โดยผลประกอบการจากการใช้เครื่องบินขนส่งสินค้าโบอิ้ง 777-200 LRF 2 ลำนี้จะเป็นแนวทางในการวางแผนจัดหาเครื่องบินขนส่งสินค้า เพื่อเพิ่มพื้นที่ ระวางด้วยการทำ BSA ต่อไปในอนาคต เพื่อตอบสนองความต้องการขนส่งของลูกค้าได้ อย่าง มีประสิทธิภาพ และส่งมอบบริการที่ดีสุดให้แก่ลูกค้า ตามพันธสัญญาของ THAI Cargo “ Always deliver the best ” นอกจากนี้ ฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ยังเปิดให้บริการ Cold Storage Service อย่างเป็นทางการ เพื่อให้บริการพิเศษ ดูแลสินค้าที่ต้องการการควบคุมความเย็นตลอด ทั้งกระบวนการขนส่ง (Cool Chain) ซึ่ง Cold Storage นี้เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์สินค้าสด ผักและผลไม้ (Perishable Center) ภายในอาคารขนถ่ายสินค้า การบินไทย เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจัดเป็นห้องควบคุมอุณหภูมิ พื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตร ภาย ในมีห้องเย็นขนาดใหญ่ 3 ห้อง ที่ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิตามประเภทและชนิดของสินค้า ระหว่าง 2 ถึง 15 องศา เพื่อให้บริการจัดเตรียมและขนส่งสินค้าที่เป็นพืชผลทางการเกษตรต่างๆ โดยใช้ การบริหารจัดการ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ในการรักษาความเย็นของสินค้า ให้คงที่ตลอด กระบวนการการขนส่งจนถึงปลายทาง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสินค้าจะได้รับการ ดูแลเป็นอย่าง ดี คงความสดและมีคุณภาพสูงสุด มีอายุการวางจำหน่ายในร้านค้าที่ปลายทางยาวนานขึ้น ลดค่า ใช้จ่ายจากความเสียหายของสินค้าอันอาจเกิดจากอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม สามารถสร้างความเชื่อ มั่นแก่ผู้บริโภค ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าสดของไทยสู่ผู้บริโภค ทั่วโลกได้มากขึ้น ลดการ ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากโฟม ซึ่งทั้งหมด เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ และช่วยรักษาสิ่ง แวดล้อมของโลกโดยรวมอีกด้วย ทั้งนี้ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และตรวจสอบตาราง เวลา ทำการบินได้ที่
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
|
Comments