Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Top Headlines กรุงศรีมองเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-33.00
กรุงศรีมองเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-33.00 PDF Print E-mail
Monday, 17 December 2018 12:51

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-33.00 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 32.80 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 4.6 พันล้านบาท และขายพันธบัตร 1.0 พันล้านบาท ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก ขณะที่เงินยูโรเผชิญแรงขายจากความกังวลเรื่องการประท้วงในฝรั่งเศสรวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในเขตยูโรโซน โดยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรใหม่ตามคาด แต่ให้คำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจยูโรโซนต่อไปท่ามกลางความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัยนำโดยสงครามการค้า

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมวันที่ 18-19 ธันวาคม จุดสนใจหลักจะอยู่ที่ประมาณการดอกเบี้ย (Dot Plots) ของเฟด รวมถึงการประเมินทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว หากเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงในปี 2562 เงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าได้เล็กน้อย ในทางกลับกัน หากเฟดสร้างความประหลาดใจด้วยการคงไว้ซึ่งประมาณการเดิมที่ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยราว 3 ครั้งในปีหน้า จะกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) นัดสุดท้ายของปีในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะคงนโยบายไว้ตามเดิม นอกจากนี้ ปัจจัยชี้นำอื่นๆ ยังคงอยู่ที่กระแสข่าวเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ราคาน้ำมันดิบ ความคืบหน้า Brexit รวมถึงการขาดดุลงบประมาณของอิตาลีและฝรั่งเศส

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เราคาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 19 ธันวาคมจะมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 1.75% โดยจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปีเพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพและสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายในอนาคต ขณะที่แนวโน้มอุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง อนึ่ง หากกนง.ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมครั้งนี้ อาจสร้างความสับสนต่อตลาดเกี่ยวกับเงื่อนไขและจังหวะเวลาในการปรับสมดุลนโยบายการเงินของไทย

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday1268
mod_vvisit_counterAll days1268

We have: 1267 guests online
Your IP: 216.73.216.99
Mozilla 5.0, 
Today: Sep 15, 2025

6071704