ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น300.19จุด |
![]() |
![]() |
![]() |
Friday, 29 January 2021 08:42 | |||
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) ที่ 30,603.36 จุด เพิ่มขึ้น 300.19 จุด หรือ +0.99% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,787.38 จุด เพิ่มขึ้น 36.61 จุด หรือ +0.98% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,337.16 จุด เพิ่มขึ้น 66.56 จุด หรือ + 0.50% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งจำนวนคนว่างงานของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อหุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 67,000 ราย สู่ระดับ 847,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 875,000 ราย จากระดับ 914,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดพุ่งขึ้น โดยบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยรายได้สูงถึง 1.114 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีการเงิน 2564 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลมีรายได้ทะลุหลัก 1 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียว ด้านเฟซบุ๊ก อิงค์ เปิดเผยกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 1.122 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.88 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4/2563 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.35 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.56 ดอลลาร์/หุ้น โดยผลประกอบการของเฟซบุ๊กได้แรงหนุนจากรายได้จากการโฆษณาของบรรดาธุรกิจค้าปลีกอีคอมเมิร์ซ อย่างไรก็ดี หุ้นแอปเปิลปิดตลาดร่วงลง 3.5% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่แอปเปิลไม่ได้ประกาศตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาสถัดไป ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊กร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทได้แสดงความกังวลว่าแนวโน้มผลประกอบการในปี 2564 อาจเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ด้านโฆษณาของเฟซบุ๊ก โดยเฟซบุ๊กคาดว่า การที่แอปเปิลได้อัปเดตระบบปฏิบัติการบน iPhone เป็น iOS 14 นั้น จะเริ่มกระทบรายได้ของเฟซบุ๊กในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ด้านทำเนียบขาวประกาศจับตาความผันผวนและภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทอย่างใกล้ชิด หลังจากราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้นถึง 1,700% นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้ และถูกมองกันว่าเป็นการรวมตัวกันของนักลงทุนรายย่อยของสหรัฐเพื่อสั่งสอนกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่มักเก็งกำไรด้วยการเทขายหุ้นในตลาด สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.0% เมื่อเทียบรายไตรมาส และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3% ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 1.6% สู่ระดับ 842,000 ยูนิตในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 865,000 ยูนิต ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนธ.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
|
![]() | Today | 211 |
![]() | All days | 211 |
Comments