ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น.1.58 จุด |
![]() |
![]() |
![]() |
Thursday, 08 December 2022 09:07 | |||
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในวันพุธ (7 ธ.ค.) ที่ 33,597.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.58 จุด หรือ +0.005%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,933.92 จุด ลดลง 7.34 จุด หรือ -0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,958.55 จุด ลดลง 56.34 จุด หรือ -0.51% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 22.68 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากผู้บริหารของธนาคารรายใหญ่อย่างโกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และแบงก์ ออฟ อเมริกา ได้ออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันการความกังวลที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลาที่ยาวนานขึ้น หลังจากดัชนีภาคบริการและตัวเลขจ้างงานสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนพ.ย. โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ดัชนี Nasdaq ถูกกดดันจากราคาหุ้นแอปเปิ้ลที่ร่วงลง 1.4% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดคาดการณ์การส่งมอบผลิตภัณฑ์ iPhone ลง 3 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาส 4/2565 เนื่องจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนได้ส่งผลกระทบต่อการผลิต ขณะที่หุ้นเทสลาดิ่งลง 3.2% เนื่องจากความกังวลที่ว่ามาตรการควบคุมโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ของเทสลาในประเทศจีน ซึ่งการร่วงลงของหุ้นเทสลาเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq เช่นกัน
|
![]() | Today | 1243 |
![]() | All days | 1243 |
Comments