Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Top Headlines ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง56.68จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง56.68จุด PDF Print E-mail
Tuesday, 28 November 2023 07:02

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในวันจันทร์ (27 พ.ย.) ที่ 35,333.47 จุด ลดลง 56.68 จุด หรือ -0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,550.43 จุด ลดลง 8.91 จุด หรือ -0.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,241.02 จุด ลดลง 9.83 จุด หรือ -0.07% ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันไซเบอร์มันเดย์ (Cyber Monday) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

เกร็ก บัสซัค นักวิเคราะห์จากบริษัท AXS Investments กล่าวว่า นักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังจากดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 สัปดาห์ โดยขณะนี้นักลงทุนหันมาจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนี PCE ซึ่งเป็นตัวเลขเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ รวมทั้งตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 3, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภค

อะโดบี อะนาไลติกส์ (Adobe Analytics) คาดการณ์ว่า โปรโมชั่นที่ผู้ประกอบการนำเสนอสำหรับการชอปปิงทางออนไลน์นั้น จะจูงใจให้ผู้บริโภคใช้จ่ายในวันไซเบอร์มันเดย์สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงกำลังซื้อที่แข็งแกร่งของผู้บริโภค โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคนั้นมีสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลข GDP สหรัฐ

ทั้งนี้ ไซเบอร์มันเดย์ หรือวันจันทร์แรกหลังวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐ ถือเป็นวันที่ชาวอเมริกันซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์มากที่สุดของปี

ในช่วงที่ผ่านมานั้น การฟื้นตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานทำให้นักวิเคราะห์ในตลาดประเมินความเป็นไปได้ที่ว่า แม้ว่าเฟดได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่เฟดก็อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้

ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 96.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค. และคาดว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2567

ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 นั้น หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงหนักที่สุด ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 5.6% สู่ระดับ 679,000 ยูนิตในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 723,000 ยูนิต จากระดับ 719,000 ยูนิตในเดือนก.ย.

สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายรายการในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากคอนเฟอเรนซ์บอร์ด ส่วนในวันพุธจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2) และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

สำหรับในวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนต.ค. ส่วนในวันศุกร์จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday978
mod_vvisit_counterAll days978

We have: 977 guests online
Your IP: 3.133.81.218
Mozilla 5.0, 
Today: Feb 06, 2025

6084312