Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Top Headlines ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น60.30จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น60.30จุด PDF Print E-mail
Saturday, 27 January 2024 10:32

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในวันศุกร์ (26 ม.ค.) ที่ 38,109.43 จุด เพิ่มขึ้น 60.30 จุด หรือ +0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,890.97 จุด ลดลง 3.19 จุด หรือ -0.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,455.36 จุด ลดลง 55.13 จุด หรือ -0.36% ขานรับข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐ แต่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง โดยถูกกดดันจากการที่หุ้นอินเทลร่วงลงหลังคาดการณ์รายได้ที่ซบเซา

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.65%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.06% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.94%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้น หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.6% ในเดือนพ.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังปรับตัวลง 0.1% ในเดือนพ.ย.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.0% และลดลงจากระดับ 3.2% ในเดือนพ.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่เพิ่มขึ้นจากระดับ 0.1% ในเดือนพ.ย.

ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ข้อมูลเงินเฟ้อดังกล่าวที่ชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับ 3% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันนั้นสนับสนุนแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2566 ที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 4/2566 ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.3% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.0%

ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมาสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ท่ามกลางความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง รวมถึงแนวโน้มที่สดใสเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

แต่ตลาดถูกกดดันจากการที่ราคาหุ้นอินเทล ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 11.9% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลังเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์กำไรและรายได้ในไตรมาส 1/2567 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยอินเทลคาดว่าจะมีรายได้ 1.22-1.32 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะมีกำไร 13 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 33 เซนต์/หุ้น

ข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า บริษัทในดัชนี S&P500 รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว โดย 78.2% รายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด เมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยในระยะยาวที่ 67%

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday1231
mod_vvisit_counterAll days1231

We have: 1225 guests online
Your IP: 3.129.63.214
Mozilla 5.0, 
Today: Jan 15, 2025

6071408