Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Top Headlines ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง96.82จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง96.82จุด PDF Print E-mail
Wednesday, 28 February 2024 08:53

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในวันอังคาร (27 ก.พ.) ที่ 38,972.41 จุด ลดลง 96.82 จุด หรือ -0.25%, ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,078.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.65 จุด หรือ +0.17% และดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,035.30 จุด เพิ่มขึ้น 59.05 จุด หรือ +0.37% ขณะนักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ของสหรัฐซึ่งอาจบ่งชี้กำหนดเวลาที่เป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง

บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ออกมาแล้ว

จุดสนใจของตลาดจะอยู่ที่การเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

หากข้อมูล PCE บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อ ก็อาจจะทำให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงในปัจจุบันต่อไปนานกว่าที่ตลาดคาดไว้

นายเจฟฟรีย์ ชมิด ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตีแสดงความเห็นเมื่อวันจันทร์ว่า เขายังคงให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ระดับสูงและไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ส่วนนางมิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เธอไม่รีบที่จะลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ

เครื่องมือ FedWatch tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า มีโอกาส 59.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย.ปีนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนจะรอดูข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจบ่งชี้แนวโน้มการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเฟด อาทิ ข้อมูลจีดีพี, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และกิจกรรมการผลิต

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยในวันอังคารนั้น ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจที่เปิดเผยในวันอังคารระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงในเดือนก.พ. หลังจากดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน และปัจจัยทางการเมืองในสหรัฐ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 106.7 ในเดือนก.พ. จากระดับ 110.9 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 115.0

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลง 6.1% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจลดลง 4.5% หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนธ.ค. และเมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.8% ในเดือนม.ค.

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday1138
mod_vvisit_counterAll days1138

We have: 1137 guests online
Your IP: 3.16.130.38
Mozilla 5.0, 
Today: May 10, 2025

6068728