Investment Society by สถาบันวิจัยนครหลวงไทย
|
|
|
|
Wednesday, 16 June 2010 08:17 |
KSL : ผลการดำเนินงานงวด Q2/53 (ก.พ.-เม.ย. 2553) แย่กว่าคาด
ผลการดำเนินงานงวด Q2/53 (ก.พ.-เม.ย. 2553) แย่กว่าคาด : KSL รายงานกำไรสุทธิงวด Q2/53 (ก.พ.-เม.ย.53) เท่ากับ 101 ล้านบาท ลดลง 64% yoy และ 50% qoq (SCRI ประมาณการไว้ 119 ล้านบาท และ Bloomberg Consensus ประมาณการไว้ 121.5 ล้านบาท) ซึ่งผลการดำเนินงานงวด Q2/53 ที่อ่อนแอของ KSL นั้นเป็นผลมาจาก 1) ปริมาณอ้อยเข้าหีบในปีนี้ที่ลดลงทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงต่ำลง ทำให้ KSL ไม่ได้รับประโยชน์จากราคาส่งออกน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นอย่างเต็มที่ 2) โรงงานใหม่ที่บ่อพลอยไม่สามารถดำเนินการผลิตได้เต็มที่ตามแผนที่วางไว้ ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานดังกล่าวไม่ถึงจุดคุ้มทุน และ 3) การรับรู้ผลการขาดทุนจากการลงทุนในตราสารอนุพันธ์จำนวน 645 ล้านบาท
คาดผลการดำเนินงานจะกลับมาเติบโตในปี 2554 : เนื่องจาก KSL จะไม่มีการขายล่วงหน้าน้ำตาลส่งออก ทำให้จะไม่มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากการลงทุนในตราสารอนุพันธ์อีกในปี 2553 ทั้งนี้ SCRI ประเมินแนวโน้มผลผลิตอ้อยในปีนี้จะปรับสูงขึ้นเนื่องจากประเมินว่าพื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาอ้อยขั้นต่ำที่จูงใจให้เกษตรกรเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งคาดปริมาณน้ำฝนจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติใน 2H/53 เพราะภาวะ El Nino ได้สิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่เดือนพ.ค.53 ทำให้ปริมาณอ้อยเข้าหีบในปี 2554 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และคาดในกรณีที่โรงงานใหม่ที่บ่อพลอยสามารถดำเนินการผลิตได้กำลังการผลิตของ KSL เพิ่มขึ้นประมาณ 20% โดยรวม SCRI คาดกำไรสุทธิปี 2554 ของ KSL จะเติบโตประมาณ 64% yoy เป็น 1,167 ล้านบาท
ยังคงคำแนะนำ “ขาย”: SCRI ยังคงแนะนำ “ขาย” KSL โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2553 เท่ากับ 8.40 บาท (Residual Income Model, Cost of Equity 9.34%, Terminal Growth 5.5%) ทั้งนี้ SCRI ประเมินว่าผลการดำเนินงานที่อ่อนแอในปีนี้ รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่คาดจะถูกกดดันจากผลผลิตน้ำตาลที่คาดจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ จะทำให้การลงทุนในหุ้น KSL ยังไม่น่าสนใจ
สุดท้ายขอให้ทุกท่านโชคดีและพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
|
Comments