Snapshot

สหรัฐอเมริกา

- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมติด้วยคะแนนเสียง 9-1 ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.75-1.00% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ โดยนับเป็นครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน และครั้งที่ 3 ในรอบ 10 ปี ขณะเดียวกัน Fed คาดการณ์ว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า ขณะที่ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ จะเกิดขึ้นในรอบการประชุมเดือนมิถุนายน และธันวาคม นอกจากนี้ Fed ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 2.1% ในปีนี้ และปีหน้า ก่อนที่จะชะลอลงสู่ 1.9% ในปี 2019 ส่วนตัวเลขอัตราการว่างงาน คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 4.5% ในช่วงสิ้นปีนี้ และจะทรงตัวที่ระดับดังกล่าวจนถึงปี 2019 นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.9% ในปีนี้ จากคาดการณ์เดิมที่ 1.8% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวเข้าใกล้ระดับ 2% แถลงการณ์ของ Fed ระบุว่า จุดยืนด้านนโยบายการเงินของสหรัฐยังคงมีความผ่อนคลาย ซึ่งจะสนับสนุนสภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งต่อไป และหนุนให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ซึ่ง Fed คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2018

- สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ยอดขายในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.2% จากที่เพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2011

- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 6 จุด สู่ระดับ 71 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี จากระดับ 65 ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเป็นผลมาจากการผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคอุตสาหกรรมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับดัชนีย่อยด้านสภาวะยอดขายในปัจจุบัน เพิ่มขึ้น 7 จุด สู่ระดับ 78 ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ยอดขายในช่วงเวลา 6 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น 5 จุด สู่ระดับ 78 ทั้งนี้ ค่าดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก

- ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สาขานิวยอร์ค รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวติดต่อกัน 5 เดือนในมีนาคม แต่ชะลอตัวจากเดือนกุมภาพันธ์ (ซึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2014) ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตในเดือนมีนาคมอยู่ที่ระดับ 16.4 จากระดับ 18.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว

- ยอดค้าปลีกในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมกราคม โดยได้รับแรงกดดันจากยอดขายรถยนต์ที่ร่วงลง อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 5.7% (yoy) ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2%

- ดัชนี CPI ในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมกราคม อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 2.7% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2012 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนมกราคม ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI จะทรงตัว เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานขยับขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมกราคม และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานพุ่งขึ้น 2.2% (yoy) หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนมกราคม

ยุโรป: อังกฤษ

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า อัตราว่างงานของประเทศลดลงสู่ระดับ 4.7% ในช่วงเดือนพ.ย.2016-ม.ค.2017 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1975 จากระดับ 4.8% ในช่วงเดือนต.ค.2016-ธ.ค.2016 ทั้งนี้ อัตราการว่างงานลดต่ำลง ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น แม้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรป (Brexit) ด้านยอดผู้ว่างงานมีจำนวนลดลง 31,000 คน สู่ระดับ 1.584 ล้านคน ในช่วงเดือนพ.ย.2016-ม.ค.2017 ขณะที่ยอดผู้ที่ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง 11,300 คนในเดือนก.พ. สู่ระดับ 2.1% ของจำนวนแรงงานทั้งหมด ส่วนรายได้จากค่าแรงเพิ่มขึ้น 2.2% ในช่วงเดือนพ.ย.2016-ม.ค.2017 แต่อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2016

ฝรั่งเศส

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (Insee) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากที่เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนก่อน ขณะที่เมื่อเทียบรายเดือน ตัวเลขเงินเฟ้อของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 0.1%

เนเธอร์แลนด์

- สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเกิร์ต ไวล์เดอร์ส ผู้นำพรรคขวาจัดที่ชูนโยบายประชานิยมอย่างพรรค Party for Freedom (PVV) ประกาศยกให้นายมาร์ค รุตเต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้นำพรรค People’s Party for Freedom and Democracy (VVD) เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งเนเธอร์แลนด์ครั้งนี้ หลังผลนับคะแนนเบื้องต้นชี้พรรคของนายกฯเนเธอร์แลนด์กวาดที่นั่งมากสุด ในขณะที่อัตราการมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 81% ซึ่งถือเป็นสถิติที่อยู่ในระดับสูง นายรุตเต กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองของประชาธิปไตย และเนเธอร์แลนด์ก็ได้ลงคะแนนเสียงให้เห็นแล้วว่า เราไม่เอาลัทธิประชานิยมแบบผิดๆ ทางด้านนักวิเคราะห์มองว่า การที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเป็นจำนวนมากเช่นนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองที่สนับสนุนการอยู่ร่วมกับสหภาพยุโรปและพรรคสายเสรีนิยม

เอเซีย: จีน

- นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนกล่าวว่า จีนจะยังคงผลักดันการปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนหยวน และไม่หวังว่าจะใช้การลดค่าเงินหยวนเพื่อสนับสนุนการส่งออก หยวนอ่อนค่า 6.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่แล้ว ขณะที่ธนาคารกลางจีนได้ใช้ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้หยวนอ่อนค่าลงอีก นายหลี่กล่าวในการแถลงข่าวหลังปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีนว่า ปริมาณทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของจีนเพียงพอที่จะชดเชยการนำเข้าและการชำระหนี้ต่างประเทศ ขณะที่การใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามปกติของบริษัทและบุคคลต่างๆ จะเป็นสิ่งที่เหมาะสม เขากล่าวอีกว่าค่าเงินหยวนจะยังคงมีเสถียรภาพโดยรวม

- นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนกล่าวว่า จีนไม่ต้องการที่จะทำสงครามทางการค้ากับสหรัฐ และกล่าวว่าทั้งสองประเทศนี้ควรจะบรรลุความเห็นที่ตรงกันในเรื่องความสัมพันธ์ทางการค้านายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวในการแถลงข่าวประจำปีหลังสิ้นสุดการประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนว่า จีนและสหรัฐควรจะส่งเสริมการหารือกันเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง และกล่าวเสริมว่าเขาเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐมีแนวโน้มที่สดใส

- นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนกล่าวว่า จีนมีแผนที่จะจัดตั้งระบบเชื่อมโยงตลาดตราสารหนี้ระหว่างฮ่องกงและจีน และจะเพิ่มการสนับสนุนต่อเศรษฐกิจของฮ่องกง โดยเขากล่าวในการแถลงข่าวหลังปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน

- นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศในปีนี้ แต่จีนมีเครื่องมือนโยบายมากมายที่จะจัดการกับความเสี่ยงดังกล่าว นายหลี่กล่าวในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติจีนว่า เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ที่ราว 6.5% ไม่ได้เป็นเป้าหมายที่ต่ำ และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบรรลุเป้าหมาย

ญี่ปุ่น

- คนงานในบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างพื้นฐานราว 0.3% ซึ่งถือเป็นอัตราการปรับขึ้นต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี และถือเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ออกจากภาวะเฉื่อยชา การปรับขึ้นค่าแรงประจำปีในฤดูใบไม้ผลิหรือ "ชุนโตะ" จะได้รับการประกาศออกมา และจะมีผลบังคับใช้ในปีงบประมาณที่จะเริ่มต้นในเดือนเม.ย. 2017 โดยการปรับขึ้นค่าแรงนี้ถือเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่นในภาคเอกชนของญี่ปุ่น ถึงแม้บริษัทญี่ปุ่นถือครองเงินสดจำนวนมาก บริษัทเหล่านี้ก็ลังเลที่จะปรับขึ้นค่าแรง ในขณะที่ทางบริษัทมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ, ต่อการแกว่งตัวของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และต่อโอกาสที่ภาคส่งออกของญี่ปุ่นจะได้รับความเสียหายจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ โพลล์รอยเตอร์ในเดือนม.ค.ระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นเกือบ 2 ใน 3 ไม่ได้วางแผนจะปรับขึ้นค่าแรงคนงานในปีนี้ ถึงแม้บริษัทบางแห่งปรับขึ้นค่าแรง ค่าแรงก็ได้รับการปรับขึ้นในอัตราที่น้อยมาก

ฮ่องกง

- ธนาคารกลางฮ่องกงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ในช่วงเช้าวันพฤหัสที่ 16 มีนาคม 2560 ตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันพุธ ทั้งนี้ ฮ่องกงปรับอัตราดอกเบี้ยตามสหรัฐ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ

ประเด็นที่น่าสนใจ

- จับตาการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอินโดนีเซียในวันพฤหัสที่ 16 มีนาคม 2560

ไทย

- ที่ประชุมคณะกรรมาธิการสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเผยว่า จะนำร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ปิโตรเลียม และร่างพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม เข้าสู่ที่ประชุม สนช.ในวาระสองและสาม ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้มี 3 รูปแบบ คือ ระบบสัมปทาน, ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต(PSC) และ จ้าง บริการ หรือ service contract หลังผ่านที่ประชุมสนช.คาดว่า อย่างช้าสุดกฎหมายทั้งสองฉบับ จะมีผลบังคับใช้ราวเดือนพ.ค.นี้

อื่นๆ

- รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ของประเทศ 12 ประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ได้เริ่มต้นการเจรจาที่ชิลีในวันอังคาร โดยมีเจ้าหน้าที่ของจีนและเกาหลีใต้เข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ดี ไม่มีแนวโน้มว่าการเจรจาในครั้งนี้จะส่งผลให้มีการตัดสินใจอย่างเป็นรูปธรรมเรื่องการทำข้อตกลงการค้าใหม่ หลังจาก TPP ประสบความล้มเหลวไปแล้ว TPP ประสบความล้มเหลว หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้ให้สหรัฐถอนตัวออกจาก TPP ในเดือนม.ค.ปีนี้ ทั้งนี้ TPP ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 12 ประเทศซึ่งได้แก่ สหรัฐ, ออสเตรเลีย, บรูไน, แคนาดา, ชิลี, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, เม็กซิโก, นิวซีแลนด์, เปรู, สิงคโปร์ และเวียดนาม โดย TPP ครอบคลุมผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ราว 40% ของโลก ชีลีได้เชิญผู้แทนของประเทศสมาชิก TPP ให้มาหารือกันที่เมืองบินา เดล มาร์ ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในชิลี เพื่อพยายามตกลงกันในเรื่องการวางแผนสำหรับอนาคต อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่กล่าวว่าการหารือกันในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางการทำงานที่ยาวนานและไม่แน่นอน นายท็อดด์ แมคเคลย์ รมว.การค้าของนิวซีแลนด์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อรอยเตอร์นอกรอบการประชุมครั้งนี้ว่า "เรามองว่าการประชุมในครั้งนี้เป็นโอกาสในการสนทนาโต๊ะกลมกันอย่างตรงไปตรงมา เพื่อประเมินว่าแต่ละประเทศมีจุดยืนอย่างไร และหลังจากนั้นเราก็จะพิจารณาว่าขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร" อย่างไรก็ดี นายแมคเคลย์คาดการณ์ในทางบวกว่า "ยังคงมีความเป็นไปได้ใน TPP" และเขาคาดว่าประเทศสมาชิก TPP จะชี้แจงแผนการของตนเอง "ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า" รัฐบาลชิลีระบุว่า ความหวังที่ดีที่สุดในขณะนี้คือความหวังที่ว่าจะมีการจัดประชุมต่อไป สหรัฐส่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำชิลีเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ส่วนจีนส่งนายหยิน เฮงหมิน ทูตพิเศษของจีนประจำภูมิภาคละตินอเมริกาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้

- เยอรมนีจะกดดันสมาชิกกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) ให้ยอมรับหลักการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการค้าเสรีในการประชุมของรมว.คลังกลุ่มจี-20 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจจะมองว่าเป็นความท้าทายต่อนโยบายกีดกันทางการค้ามากขึ้น แหล่งข่าวในกลุ่มจี-20 เปิดเผยว่า เยอรมนีซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่มจี-20 จะย้ำความสำคัญของการค้าเสรีทั่วโลกในเอกสารอีกฉบับที่แยกจากปฏิญญาของกลุ่มจี-20 การดำเนินการดังกล่าวตอกย้ำความต้องการของเยอรมนีที่จะปฏิเสธคำเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้ลดพันธกิจของกลุ่มจี-20 ต่อการค้าเสรี ขณะที่นายกรัฐมนตรีแองเจลา เมอร์เคลของเยอรมนีกำลังเตรียมตัวสำหรับการประชุมครั้งแรกของเขากับปธน.ทรัมป์ในวันศุกร์นี้

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันพุธ (15 มีค.) เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ก่อนเสร็จสิ้นการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเป็นเวลาสองวันซึ่งจะสิ้นสุดในคืนนี้ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับค่าเงินอื่นๆในช่วงตลาดสหรัฐฯแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯเป็นผลจากการที่รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่นักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ก่อนหน้านี้

- ดอลลาร์/เยน วันพุธ (15 มีค.) เงินเยนอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเป็นเวลาสองวันเสร็จสิ้นในคืนนี้ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีการประชุมวันที่ 16 มีนาคมซึ่งมีแนวโน้มจะคงมาตรการทางการเงินผ่อนคลายมากเป็นพิเศษต่อไป แต่ว่าจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในตลาดการเงินโลกที่คาดว่าจะสูงขึ้นตามอัตราผลตอบแทนในสหรัฐฯ ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มปรับขึ้นเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ประเภทอายุ 10 ปี จากเป้าหมายปัจจุบันที่ตั้งไว้ที่ระดับราว 0 % เพื่อลดภาระในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นและเพื่อให้มาตรการ QQE สามารถดำเนินไปได้นานขึ้น ทั้งนี้ดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับค่าเงินอื่นๆในช่วงตลาดสหรัฐฯแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯเป็นผลจากการที่รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่นักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ก่อนหน้านี้

- ยูโร/ดอลลาร์ วันพุธ ( 15 มีค.) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ก่อนการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์วันนี้ซึ่งนักวิเคราะห์ในต่างประเทศมองว่า การเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ครั้งนี้ถือเป็นการทดสอบกระแสต่อต้านผู้อพยพและกระแสชาตินิยม ขณะเดียวกันนักลงทุนก็จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯคืนนี้ ทั้งนี้ดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับค่าเงินอื่นๆในช่วงตลาดสหรัฐฯ

Capital Market

- ตลาดสหรัฐฯ วันพุธ ( 15 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นอย่างมากในวันพุธ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือนตามความคาดหมายของนักลงทุน เฟดปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้น 0.25% สู่ช่วงระดับ 0.75-1.00% แต่เฟดไม่ได้บ่งชี้ถึงแผนการใดๆที่จะเร่งอัตราการคุมเข้มนโยบายการเงิน ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 0.54% สู่ระดับ 20,950.10, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.84% สู่ระดับ 2,385.26 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 0.74% สู่ระดับ 5,900.05

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันพุธ ( 15 มีค.) ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดลดลง 0.16% มาอยู่ที่ 19,577.38 ขณะที่นักลงทุนรอดูการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯในคืนนี้โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันนักลงทุนก็รอดูการชี้ทิศทางแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯในช่วงต่อไปของปีนี้ด้วย ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดบวก 0.08% มาอยู่ที่ 3,241.93

- ตลาดหุ้นไทย วันพุธ ( 15 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ลดลงในช่วงแรกก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นในเวลาต่อมาขณะที่วันนี้นักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯคืนนี้ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในคืนนี้และจะชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีต่อๆปีซึ่งก็มีแนวโน้มที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะยังสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ โดยในช่วงบ่ายดัชนีได้ปรับลดลง ส่งผลให้ปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 2.35 จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 16 มี.ค. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment