เตรียมเฮ! ดัชนีเดือนนี้พุ่งแรงแตะ 770-795 จุด
|
|
|
|
Thursday, 03 June 2010 16:56 |
นายวิวัฒน์ เตชะพูนผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวในงานสัมมนากลยุทธ์หุ้นเดือนมิ.ย. 2553 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 770 จุด หากผ่านไปได้ก็มีโอกาสที่ดัชนีฯจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 795 จุด โดยแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีอัตราการขยายตัวที่อยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับเหตุการณ์การเมืองภายในประเทศได้ผ่านจุดเลวร้ายสุดไปแล้วในช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ราคาหุ้นในตลาด ณ ปัจจุบันถือว่าปรับตัวลงมาเยอะมากแล้ว ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยกลุ่มที่มีความโดดเด่นสุดได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบในการก่อสร้างปรับลงตาม อีกทั้งเหตุการณ์การจลาจลภายในประเทศที่ทำให้อาคารเสียหายก็จะได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมประเทศจึงทำให้กลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีความโดดเด่นที่สุด แนะนำ STEC โดยระยะกลางราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ประเมินแนวต้านรอบนี้ที่ 6.50 บาท แนะนำซื้อ CK แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2 น่าจะปรับตัวดีขึ้น PLE แนวโน้มราคามีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1.60 บาท โดยให้รอซื้อที่แนวรับ 1.30 บาท และ UNIQ มองว่ามีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับขึ้นไปถึงแนวต้าน 5.20 บาท
ส่วนหุ้นกลุ่มอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่ TCAP,KTB ,ADVANC,TASCO ,SAT ,BH ,BGH อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนมิ.ย.นักลงทุนควรที่จะทยอยลดพอร์ตการลงทุน เนื่องจากคาดการณ์ในเดือนถัดไปมีโอกาสที่ดัชนีหลักทรัพย์ทั่วโลกจะปรับตัวลดลงจากปัญหาความกังวลวิกฤตการเงินยุโรป โดยจะสะท้อนจากผลประกอบการไตรมาส 2 จากสถาบันการเงินในยุโรปที่จะออกมาไม่ดีนักจากการตั้งสำรอง
ส่วน แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในปี 2553 มีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 820 จุดในช่วงไตรมาส 4/2553 โดยปัจจัยบวก คือ การเมืองในประเทศที่ผ่านจุดเลวร้ายสุดไปแล้วในเดือน พ.ค. 2553
อีกทั้ง ราคาหุ้นไทยยังคงถูกมากเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ปัญหาหนี้ยุโรปว่าจะสามารถคลี่คลายได้หรือไม่ โดยประเมินแนวรับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯไว้ที่ 720-750 จุด ซึ่งถือเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง
นายวิวัฒน์ กล่าวต่อถึงกลยุทธ์การลงทุนในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทยเดือน มิ.ย. ว่ามีแนวโน้มที่ดัชนี SET50 มีโอกาสที่จะปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 542 จุด ดังนั้น ระยะสั้นจึงแนะนำให้เปิดสถานะซื้อ S50M10 ขณะที่ระยะยาวให้นักลงทุนรอเปิดสถานะขายในสัญญา S50U10 ที่บริเวณแนวต้านดังกล่าว โดยมีโอกาสที่ดัชนี SET50 จะปรับลงสู่แนวรับ 500 จุดได้ ทั้งนี้ให้ตัดขาดทุนหากดัชนี SET50 ขึ้นทะลุแนวต้านถัดไปที่ 545 จุด
|
Comments