บลจ.ไทยพาณิชย์ออกกองตราสารหนี้กว่า2หมื่นล. |
Friday, 13 May 2011 01:15 | |||
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนพร้อมกัน 5 กองทุน มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีความหลากหลายให้เลือกตามระยะเวลาการลงทุนตั้งแต่ 3 เดือนถึง1 ปี ตามความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลไทยผสมเงินฝากธนาคารในฮ่องกง พันธบัตรอิสราเอล เงินฝากธนาคารต่างประเทศผสมตราสารหนี้สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ประเภท Euro Medium Term Note คาดให้ผลตอบแทน 2.20-3.35% ต่อปี ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำแต่ละกองทุน 10,000 บาท โดยกองทุนที่เสนอขายตั้งแต่วันนี้- 18 พ.ค 54 ประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 3M50 (SCB Government Bond 3M50) ขนาดกองทุน 3,000 ล้านบาท อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง 99% ส่วนที่เหลือเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ คาดผลตอบแทนประมาณ 2.20% ต่อปี กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 3M11 (SCB Fixed Income Fund 3M11) ผลตอบแทนประมาณ 2.60% และ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 6M18 (SCB Fixed Income Fund 6M18) ผลตอบแทนประมาณ 2.80% ต่อปี ขนาดกองทุนละ 4,000 ล้านบาท อายุ 3 และ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 55% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารบาร์เคลย์ และ HSBC สาขาฮ่องกงซึ่งได้รับการจัดอันดับโดย Fitch Rating ที่ระดับ F1+ หรือธนาคาร Wing Lung Bank (ฮ่องกง) ซึ่งได้รับการจัดอันดับโดยมูดี้ส์ ที่ระดับ A2 ในสัดส่วน 22.5% เท่ากัน สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 3M11 จะเสนอขายจนถึงวันที่ 19 พ.ค. 54 โดยทั้งสองกองทุนปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรอิสราเอล 10M1 (SCB Israel Bond Open End Fund 10M1) มูลค่ากองทุน 5,000 ล้านบาท อายุ 10 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอิสราเอล 99% ส่วนที่เหลือลงทุนเงินฝากธนาคารพาณิชย์ คาดผลตอบแทนประมาณ 3.25% ต่อปี พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว และกองสุดท้าย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y2 (SCB Foreign Fixed Income Fund 1Y2) มูลค่ากองทุน 5,000 ล้านบาท อายุ 1 ปี มีนโยบายลงทุนใน Euro Medium Term Note (EMTN) ของธนาคาร Suhyup และ ธนาคาร The Korea Development Bank ประเทศเกาหลีใต้ โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือ A- (S&P) และ A+(Fitch) ตามลำดับ ในสัดส่วน 25% เท่ากัน สัดส่วนที่เหลือ 20% เงินฝากธนาคารบาร์เคลย์ สาขาฮ่องกง อันดับความน่าเชื่อถือ AA-(Fitch) 25% เงินฝากธนาคาร HSBC Middle East อันดับความน่าเชื่อถือ AA(Fitch) และพันธบัตรรัฐบาลไทย 5% คาดผลตอบแทนประมาณ 3.35% ต่อปี พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเสนอขายจนถึง 20 พ.ค.นี้ “บลจ.ไทยพาณิชย์ มีความตั้งใจที่จะหาตราสารหนี้ในต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ในประเทศ อย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาลอิสราเอล ธนาคารในฮ่องกงหรือ Middle East มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน รวมถึงตราสารหนี้สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ประเภท Euro Medium Term Note (EMTN) ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการระดมเงินตราต่างประเทศ และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนที่ออกโดย The Korea Development Bank และ Suhyup ซึ่งเป็นธนาคารที่รัฐบาลเกาหลีใต้ถือหุ้น 100%” นางโชติกา กล่าว สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6
|
Today | 1157 | |
All days | 1157 |
Comments