รัฐวิสาหกิจปรับกลยุทธ์การเบิกจ่ายลงทุน พยุงเศรษฐกิจไทยสู้โควิด |
![]() |
![]() |
![]() |
Sunday, 26 September 2021 13:05 | |||
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2564 รัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง ที่ สคร.กำกับดูแลโดยตรงมีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 228,231 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 93 ของแผนการเบิกจ่ายสะสมประกอบด้วยการเบิกจ่ายงบลงทุน11 เดือนของรัฐวิสาหกิจระบบปีงบประมาณ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 -เดือนสิงหาคม 2564) 34 แห่งจำนวน 126,584 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 84 ของแผนการเบิกจ่ายสะสมและการเบิกจ่ายงบลงทุน 8 เดือนของรัฐวิสาหกิจระบบปีปฏิทิน (เดือนมกราคม2564 - เดือนกรกฎาคม 2564) 9 แห่ง จำนวน 101,646 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 106 ของแผนเบิกจ่ายสะสมผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2564ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2564รัฐวิสาหกิจกรอบลงทุนทั้งปี นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเสริมว่า ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2564รัฐวิสาหกิจหลายแห่งสามารถเบิกจ่ายได้เป็นไปตามแผนหรือสูงกว่าแผน เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) โดยมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรี ของ รฟม.แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ 12 ปี 2560 – 2564 ของการไฟฟ้านครหลวง งานก่อสร้างปรับปรุงขยายระบบประปา ของการประปา ส่วนภูมิภาค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และโครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า ระยะที่ 12 (กฟผ.) ทั้งนี้ มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายล่าช้า เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม - ชุมพร ของ รฟท. โครงการพัฒนา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 - 2560) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลักครั้งที่ 9 ของการประปานครหลวง และแผนก่อสร้างศูนย์บริหาร ทางพิเศษ กทพ. (ระยะที่ 2) ของ กทพ. นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปว่า ในเดือนสิงหาคม 2564 รัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเบิกจ่ายลงทุน โดยพยายามปรับเปลี่ยนการดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบจากสถานการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และผลกระทบจากการปิดแคมป์คนงานได้แก่ การปรับแก้ไขสัญญาเรื่องค่าปรับที่ส่งผลกระทบต่อเอกชนการเร่งรัดการเบกจ่ายค่าจ้างล่วงหน้าตามสัญญาให้แก่เอกชนการปรับแผนเบิกจ่ายในส่วนงานจัดซื้อพัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องจักรเพื่อทดแทนงานก่อสร้างที่ไม่สามารถดำเนินการได้การปรับรูปแบบการดำเนินงานจากการใช้แรงงานคนเป็นการใช้ระบบอุตสาหกรรมเพื่อให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้ เป็นต้นซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้นช่วยให้รัฐวิสาหกิจมีผลการเบิกจ่ายลงทุนในระดับที่ดีและเป็นไปตามแผนทั้งนี้ การเบิกจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจยังคงเป็นเครื่องมือที่ช่วยพยุงและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศไทยต่อไป โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ดีและเป็นไปตามแผนอย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดของโรคส่งผลกระทบต่อบางโครงการ/แผนงานเนื่องจากบุคลากรไม่สามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างหรือตรวจรับงานได้ขาดแคลนแรงงานและไม่สามารถนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว เช่นการประสานหน่วยงานภาครัฐเพื่อขออนุญาตก่อสร้าง โดยมีมาตรการที่รัดกุมรองรับการหาแรงงานและวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ทดแทนรวมทั้ง เร่งรัดงานอื่นมาดำเนินการทดแทนเพื่อให้การลงทุนของรัฐวิสาหกิจเป็นเครื่องมือของภาครัฐในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
|
![]() | Today | 1141 |
![]() | All days | 1141 |
Comments