นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในเช้าวันนี้มีโอกาสปรับลดลงต่อเนื่อง และอาจปรับลงต่ำกว่าแนวรับที่ 750 จุด หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 เม.ย.53)  ดัชนีฯ สามารถรีบาวน์ขึ้นมาแรงพอสมควรในช่วงท้ายตลาดฯ

ทั้งนี้ หากประเมินสถานการณ์ในช่วงหยุดยาว 3 วันในเทศกาลวันสงกรานต์นั้น กระแสข่าวต่างๆ อยู่ในเชิงลบ นำโดยประเด็นทางการเมือง ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศคืนพื้นที่การชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนินและสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยเคลื่อนไปรวมตัวกับกลุ่มผู้ชุมุนมที่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นถนนหลักที่เชื่อมการเข้าและออกตัวเมือง ประกอบกับเป็นบริเวณยุทธศาสตร์ทางการค้าสำคัญต่างๆ ล่าสุด ศูนย์การค้าที่อยู่ใกล้เคียงกับกุ่มผู้ชุมนุมประกาศประกาศปิดให้บริการไม่มีกำหนด ดังนั้นจึงนับเป็นภาวะกดดันต่อตลาดฯ อีกทั้ง อาจมีผลกระทบต่างๆ ตามมา โดยเฉพาะในเรื่องของความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเห็นได้จากการเป็นผู้ขายสุทธิต่อเนื่องหลายวันทำการแล้ว

นอกจากนี้ กรณีที่ประธานกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น พร้อมทั้งคาดว่าในอีก 2 - 3 ไตรมาสจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เม็ดเงินต่างชาติย้ายเงินลงทุนกลับไปยังภูมิภาคที่ได้รับประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว และจะส่งผลยังค่าเงินที่เกี่ยวข้อง โดยหากค่าเงินดอลลาร์มีสัญญาณแข็งค่าขึ้น ก็จะทำให้เงินไหลออกได้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ดี ประเมินว่า ต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรกว่าดัชนีฯ จะพลิกกลับมาสู่ทิศทางบวก ซึ่งคาดว่าจะยังไม่เห็นภายในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดรวมเป็นผู้ซื้อสุทธิค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงน่าจะยังเป็นผู้ขายต่อเนื่องในระยะนี้

ส่วนปัจจัยจากดัชนีต่างประเทศ และทิศทางราคาน้ำมัน มองว่าไม่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ โดยดัชนีดาวโจนส์ ปรับเพิ่มขึ้น 21.46 จุด หรือ 0.19% ปิดบวก 11,144.57 จุด, ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 08:32 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 11,141.07 จุด ลดลง 132.72 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 11,230.53 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 11,273.79 จุด หรือ -1.18 % และราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนพฤษภาคม ที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 85.51  ดอลลาร์/บาร์เรล  ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.38%

ทั้งนี้ จากดัชนีฯ ที่มีโอกาสปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวรับที่ 750 จุด ดัชนีฯ จะไปสู่จุดต่ำสุดเดิมของเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ 742 จุด ดังนั้นจึงแนะนำให้ถือหุ้นเพียง 30% เท่านั้น โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ TUF และหุ้นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ประเมินแนวต้านอยู่ที่ 765 - 770 จุด

ด้านนายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้มีโอกาสปรับลดลง ทั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เปิดตลาดฯ เคลื่อนไหวในแดนลบ ประกอบกับเป็นวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ ส่งผลให้นักลงทุนมีการชะลอการซื้อขาย

นอกจากนี้ ยังได้รับอิทธิพลกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศจากกรณีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่ยังปักหลักชุมนุมยืดเยื้อเพื่อกดดันการทำงานของรัฐบาล ล่าสุดได้มีการย้ายกลุ่มผู้ชุมนุมจากบริเวณผ่านฟ้าลีลาศมารวมตัวไว้ที่จุดเดียวคือบริเวณแยกราชประสงค์ซึ่งถือเป็นย่านธุรกิจที่มีความสำคัญ อีกทั้งในช่วงหลังวันหยุดเทศกากาลสงกรานต์จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ก่อนที่จะจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นประเด็นกดดันเสริมบรรยากาศการลงทุน

ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่มาก จึงมองว่าจะไม่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ดี ระดับเคลื่อนไหวของดัชนีฯ จะอ่อนตัวลงในวันนี้ไม่แรงเท่ากับช่วงวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา  เนื่องจากได้รับตัวแปรเชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ราคาได้ไต่ระดับขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ แม้ล่าสุดจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย 33 เซนต์ก็ตาม

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือสถานการณ์ความคืบหน้าทางการเมืองว่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางใด รวมทั้งการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำพิจารณาซื้อที่บริเวณเวณแนวรับ 750 จุด และ 742 จุด ในหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่แนวต้านประเมินไว้ที่ 770 จุด    

Written by :

พิราบขาว

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment