ทางเลือก ทางร่วง..โดย..นายคิดดี |
![]() |
![]() |
![]() |
Wednesday, 09 December 2009 13:44 | |||
อากาศเย็นสบายใจเดือนสุดท้ายของปี ตอนแรกก็หวังจะได้เห็นภาวะการลงทุนที่ชิวๆ สร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับนักลงทุน ที่ต้องคร่ำเครียดกับภาวะตลาดบ้าๆ มาตลอดทั้งปี จะมีมาขมขื่นกันบ้าง ก็เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพราะเจอตัวเลขจ้างงานสหรัฐเข้าให้ เนื่องจากข้อมูลออกมาดีกว่าที่คาด ทำให้มีคนฝันไปไกลว่าจะได้เห็นธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คิด นักลงทุนก็เลยแตกตื่นรีบขายทองออกมาเป็นการใหญ่ โดยมีพวกที่กอดกำไรอยู่แล้ว ผสมโรงเข้ามาถล่มราคากันด้วย ยังดีที่วันถัดมา ท่านประธานเบอร์นันเก้ ออกมาย้ำความเป็นจริงให้ฟังอีกครั้งหนึ่งว่า เศรษฐกิจยังเปราะบาง และอย่าพึ่งใจเร็วด่วนได้ที่จะให้ดอกเบี้ยขึ้น ดอลลาร์ก็เลยเริ่มอ่อน และทองก็กลับมาสู่ลู่วิ่งอีกครั้ง แม้จะต้องเริ่มออกสตาร์ทช้าๆ ด้วยความเสียวสันหลังมากขึ้นก็ตาม ว่ากันถึงเรื่องทองคำแล้ว ก็อยากจะชวนคุยกันไปให้สุดทาง เพราะตอนนี้ นักลงทุนบ้านเราหูตากว้างขวางมากขึ้น และพร้อมที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆมากขึ้นด้วย ซึ่งสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลาย ก็เป็นทางเลือกที่ได้รับการตอบรับด้วยดีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน แน่นอน “ทองคำ” น่าจะติดลมบนไปแล้ว ไม่วาจะลงทุนทองคำแบบตัวเป็นๆ ลงทุนผ่านโกลด์ฟิวเจอร์ส หรือลงทุนผ่านกองทุนรวม มีให้เลือกันทุกช่องทาง แม้วันนี้ ใครที่เข้าไปไม้หลังๆ อาจจะออกไม่ทัน และเจ็บตัวมากหน่อย แต่ขอให้กำลังใจว่าอย่าใจเสาะ กัดฟันถือยาวต่อไปได้ มั่นใจได้กว่า 90% ว่าจะมีกำไร เพราะอย่างไรเสีย ความต้องการทองคำยังมีอยู่เรื่อยๆ และดอลลาร์ยังไม่ถึงเวลากลับมาแข็งอย่างจริงจังแน่นอน หันมาดูโภคภัณฑ์ตัวจี๊ดของจริง แต่พักหลักถูกทิ้งให้เหงามานานอย่าง “น้ำมัน” ถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ เปอร์เซนต์ต่อเปอร์เซนต์ ต้องบอกว่าปีนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมามากกว่า ราคาทองคำเสียอีก เพียงแต่พอสนนราคายังอยู่ที่ 70-80 เหรียญ พอไปเทียบกับราคาทองที่ทะลุระดับ 1,000 เหรียญไปได้สักพักแล้ว เลยรู้สึกกันไปว่า ทองร้อนกว่าน้ำมัน ส่วนอีกเหตุผลหนึ่ง ก็คือ น้ำมัน ช่วงนี้ยังหาปัจจัยหนุนลำบาก เพราะเป็นตัวที่อิงกับเศรษฐกิจโลก ถ้าเศรษฐกิจโลกเข็นไม่ขึ้น หรือไม่ได้เกิดวิกฤติการณ์อะไรที่กระทบต่อซัพพลายน้ำมันครั้งใหญ่จริงๆ จะให้ราคาควบจี๋ขึ้นมา เห็นทีจะลำบาก ยิ่งข้อมูลสต็อกน้ำมันของสหรัฐจ้องจะขยับเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ และยังมีน้ำมันที่ซื้อตุนไว้ตอนราคาถูก และลอยกลางทะเลอีก การจะเห็นราคาน้ำมันขยับแรงๆเลยค่อนข้างยาก ช่วงนี้ก็คงต้องเล่นในกรอบ ซื้อมาขายไปสั้นๆไปก่อน ส่วนใครพร้อมยอมซื้อแล้วนอนฝันเห็นราคาน้ำมันทะลุ 100 เหรียญ ถ้ารอได้อีกสัก 1-2 ปี ก็ควักกระเป๋ากันได้ แต่ที่อยากแนะนำให้แอบดูไว้ เพราะมีสตอรี่ให้เล่นอยู่เหมือนกัน คือ สินค้าเกษตร ซึ่งถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์เบา ที่ให้ลองมองตัวนี้ เพราะพักหลังกระแสการพูดถึงวิกฤติการณ์อาหารในปีหน้าเริ่มหนาหูมากขึ้น จากความแปรปรวนของสภาพอากาศ และภัยธรรมชาติทั่วโลก ถ้าใครมีเงินเย็นๆ พอจะถือได้ ก็น่าจะมีการลงทุนสินค้าประเภทนี้ติดไว้บ้าง ทว่า ข้อเตือนไว้นิดสำหรับสินค้าเกษตรว่า ถ้าหวังหากำไรล่ะก็พอได้ แต่ถ้าหวังรวยกันเป็นเรื่องเป็นราวก็ลำบาก เพราะคล้ายๆกับน้ำมัน คือ สินค้าเกษตร ต้องขึ้นอยู่กับดีมานด์ซัพพลายในตลาด ถ้าดีมานด์ไม่หนุน ราคาก็ขึ้นลำบาก แถมเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับปากท้องโดยตรง ภาครัฐของแต่ละประเทศจะปล่อยให้ราคาทะยานขึ้นแบบไม่ลืมหูลืมตา ก็คงไม่ได้ ขึ้นได้สักพัก พอพาดหัวข่าวกันมันมือแล้ว ก็คงจะต้องเข้ามาคุมกำเนิดกันอยู่ดี ดังนั้น เข้าไปแล้วใจเย็นๆ รอเผ่นเมื่อมีกำไร น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ มากกว่ารอให้ราคาร้อน แล้วค่อยตามแห่ไปขึ้นเมรุ เหมือนรอบก่อนๆที่ผ่านมา ที่พอจะแนะนำได้ก็มีเท่านี้ แต่ถ้าจะให้บอกจากใจจริงๆ ตัวเลขปี 2552 ใกล้หมดอายุขนาดนี้ ถ้าใครมีกำไรแล้ว หรือไม่ได้เจ็บตัวอะไรมาก ก็ออกจากตลาดไปสักพัก หามุมพักผ่อนหย่อนใจจะดีกว่า เพราะช่วงสิ้นปีวอลุ่มหาย ตลาดบาง เป็นโอกาสให้คนมีตังค์เขาลากไปลากมาได้ง่าย ถ้าไม่อยากถูกเจ๊กลากไปไทยลากมา ก็ปล่อยให้เขาสนุกไปเถอะ เก็บเงิน เก็บแรงไว้ เปลี่ยนปฏิทินเมื่อไหร่ แล้วค่อยกลับมาลุยกันใหม่ ก็ยังไม่สาย นายคิดดี
|
![]() | Today | 979 |
![]() | All days | 979 |
Comments