ส่งสัญญาณ..โดย..นายคิดดี

ปกติก็ไม่ค่อยอยากจะชี้นำตลาด ให้คาดการณ์ไปก่อนสักเท่าไหร่ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาระบุว่า อัตราเงินเฟ้อบ้านเราที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น อาจทำให้สไตล์การดำเนินนโยบายการเงินของแบงก์ชาติเปลี๊ยนไป๋

จากที่ปีนี้ เน้นดำเนินนโยบายแบบขอแค่ประคองให้เศรษฐกิจ รอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชได้ ก็ถือว่าโอเค

แต่ปีหน้า ถ้าเงินเฟ้อมาตามนัด คงต้องเปลี่ยนแนวไปบริหารนโยบายการเงิน เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นหลัก

ฟังกันเผินๆแบบคนไม่ค่อยได้เจรจาว่าความกัน ก็ไม่ได้คิดอะไร แถมจะบ่นซ้ำเข้าให้ว่า พูดอะไรออกมาถึงฟังดูไม่รู้เรื่องขนาดนี้

แต่คนที่จับหูจับตารอความเคลื่อนไหวจากแบงก์ชาติอยู่เป็นนิจ ถึงกับตบมือฉาดใหญ่ เพราะในที่สุด ก็ได้เห็นการส่งสัญญาณจาก ธปท. ออกมาเสียที ว่าจะเอายังไงกันดีกับอัตราดอกเบี้ยของไทย

คำว่า “รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ” ถ้าอยู่ตัวเดียวโดดๆ อาจจะตีความไปได้เรื่อยๆ จะเอาแน่เอาชัดก็ยังลำบาก แต่พอมายืนคู่กับเงื่อนไข “เงินเฟ้อเร่งตัว” อย่างนี้ถือว่าชัด เพราะถ้าเงินเฟ้อเร่งเครื่อง อัตราดอกเบี้ยก็ต้องบิดคันเร่งตามไปสกัดเหมือนกัน เพื่อไม่ให้ราคาในตลาดทะยานจนกระทบต่อการบริโภค และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ผลที่เห็นก็คือ หน้าหนังสือพิมพ์พร้อมใจกันแปรสัญญาณให้ฟังกันตรงๆ ว่า ธปท.ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

ส่วนจะขึ้นเมื่อไหร่ ขึ้นเท่าไหร่ อันนี้ก็ต้องไปดูตัวเงื่อนไขที่แบงก์ชาติตั้งไว้ ว่าจะแรงได้ใจขนาดไหน และต้องตามประกบติดแบบชิดเชื้อหรือไม่ ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นที่ต้องไปรีบปวดหัว เพราะถึงคิดให้ตายยังไง สุดท้ายก็แค่ทายถูก ได้หน้า แต่ไม่ได้ตังค์

ดังนั้น หันมาว่ากันเรื่องกลยุทธ์การลงทุน ที่จะสอดรับไปกับสัญญาณที่ส่งมาร้อนแบบนี้ดีกว่า

เชื่อว่าสังฆราชในแวดวงการลงทุน คงมีอยู่เยอะแล้ว จึงไม่อยากจะไปสอนหนังสือให้เสียเวลาท่าน เลยขอนิมนต์ให้ไปจิบกาแฟรอ หรือคลิ๊กอ่านคอลัมน์อื่นไปก่อน ปล่อยให้ครูบ้านนอก บ้านหนองฮีใหญ่ ได้สอนนักเรียนมือใหม่ดูสักยก จะได้ไม่ต้องขวยเขินกันทั้งสองฝ่าย

ในเมื่อเราๆท่านๆ ไม่ได้เป็นผู้จัดการกองทุนสมองเพชร ที่คอยจับจังหวะขึ้นลงของราคา และผลตอบแทนตราสารหนี้แบบขอบสนาม จนถึงขั้นรู้สึกว่าจุดไหนที่พอจะมีสเปรดให้เทรดให้ทำกำไรกันได้ ก็คงต้องมาว่ากันด้วยกลยุทธ์พื้นๆ แบบบ้านๆ แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นผู้มีองค์ความรู้ในการลงทุนบ้าง

แนวโน้มดอกเบี้ยจะขึ้นแบบนี้ ใส่เกียร์ฟันธงไปก่อนเลยว่า ต้องเน้นบอนด์สั้น หรือไม่ก็กองทุนตลาดเงิน หรือที่เรียกกันติดปากไปแล้วว่า มันนี่มาร์เก็ตฟันด์

ทั้งนี้ เนื่องจาก เมื่อดอกเบี้ยจะขึ้น การทะลึ่งไปล็อกซื้อตราสารหนี้ระยะยาว วันนี้อาจจะเห็นว่าได้กำไร เพราะดอกเบี้ยสูงกว่าท้องตลาด แต่พอเข้าสู่ตีนปลาย ถ้าตราสารหนี้ที่ไปล็อกซื้อมา ให้ดอกเบี้ยไม่สูงจริง อาจจะโดนพวกเล็กสั้นขยันโรลโอเวอร์ แซงโค้ง ทำผลตอบแทนรวมเฉือนเข้าป้ายไปได้เช่นกัน

เนื่องจากการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ตลอดจนมันนี่มาร์เก็ตฟันด์  มีข้อดีคือเรื่อง reinvestment หรือการกลับเข้ามาลงทุนรอบใหม่ได้เร็ว สมมติให้วันนี้ดอกเบี้ยอยู่ 1% แล้วเราเข้าลงทุนแบบ 3 เดือน พอรุ่งขึ้นดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ถึงเจ็บใจก็เจ็บไม่นาน เพราะอีก 3 เดือน ก็ได้ลงทุนใหม่ในอัตราดอกเบี้ย 1.25% แล้ว ยิ่งดอกเบี้ยขยับขึ้น การกลับเข้ามาลงทุนได้เร็ว ถือเป็นแต้มต่อที่ผู้ลงทุนระยะสั้น จะมีเหนือผู้เสียรู้อยู่ยาวไปแล้ว

อีกอย่าง ตามปกติการลงทุนระยะสั้น จะเสี่ยงต่ำกว่าระยะยาว คือ ต่อให้เศรษฐกิจพลิกผันกลับไปแย่ยังไง ถ้าแค่ 3 เดือน 6 เดือน บริษัทที่เราไปลงทุนตราสารหนี้เอาไว้ ก็คงจะยังไม่ทันเจ๊ง แต่ถ้าเป็น 3 ปี 5 ปี อันนี้นะไม่แน่

หรือสุดท้าย ถ้าพลาดพลั้งเดาทางผิด ดอกเบี้ยกลับไม่ขยับและลากยาวไปกว่าที่คิด อย่างน้อยก็ยังได้ปลอบใจตัวเอง ว่าตราสารหนี้ หรือมันนี่มาร์เก็ตฟันด์ ที่ลงทุนไว้ ก็ยังได้ดอกเบี้ยดีกว่าไปฝากผีฝากไข้กับเงินฝากธนาคาร

ฝากส่งท้ายปีไว้ด้วยเรื่องสบายๆ ปีหน้าค่อยกลับมาว่ากันด้วยเรื่องราวดุเดือด เลือดกระจาย ตามสไตล์นายคิดดีกันต่อ

Happy New Year

นายคิดดี

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

Written by :

พิราบขาว

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment