ขึ้นชื่อเรื่องมาอย่างนี้ ก็หมายความตามอย่างนั้นจริงๆ เพราะเรื่องเงินๆทองๆไม่เคยเข้าใครออกใคร ต่อให้เป็นพี่เป็นน้อง เป็นพวกเป็นพ้องกันมายังไง ก็เถียงกันเส้นเอ็นคอขาดได้ เพราะเรื่องเงินๆทองๆนี่แหละ

 โดยเฉพาะในแวดวงตลาดทุนบ้านเรา ที่มีเสือ สิงห์ กระทิง และกระบือ ด้วยแล้ว ต้องบอกว่าเหนือคำบรรยาย ใจไม่เคยซื้อด้วยใจ เงินเท่านั้นเป็นตัวเริ่มเกม และเป็นจุดสุดท้ายของเกม

 ยกกรณียืดเยื้อมาให้ดู 3 เรื่อง เป็นการสะท้อนภาพ เริ่มจากการตกลงค่าคอมมิสชั่นของโบรกเกอร์ ที่จะเก็บกับลูกค้ารายใหญ่ ระดับ 20 ล้านขึ้นไป ที่พอ ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์ ให้หันมาเป็นการเปิดเสรีแบบขั้นบันได  ก็มีบางโบรกเกอร์ เปิดศึก ซีโร่ คอมมิสชั่น กันเลย

 คิดในเชิงธุรกิจอย่างเดียว คงหาเหตุผลไม่เจอ ว่าทำธุรกิจยังไงถึงให้บริการลูกค้าฟรีๆได้แบบนี้ แต่ถ้าคิดแบบคนมีธุรกิจหลายชั้นแบบที่โบรกเกอร์เจ้าดังเขาคิด มันก็คงมีมุมให้คุ้มกันอยู่บ้าง 

 พอเห็นท่าไม่ดี สมาคมโบรกเกอร์ ก็ต้องกวักมือเรียกสมาชิกทุกราย มาเคาะกะโหลกเตือนสติ จัดแถวจัดแนวกันใหม่ อย่างที่เป็นข่าวกัน คนดื้อก็ดื้อซะเพลียแรง กว่าจะเอาอยู่ก็ต้องใช้พวกมากมารุมสกัดจุดซ่า ถึงจะยอมเออออ แต่ก็ไม่รู้ว่าลับหลัง จะแอบไปแผลงฤทธิ์ แสดงเดชอะไรอีกหรือเปล่า เป็นเรื่องต้องรอชมกันต่อไป

 นี่เป็นตัวอย่างแรก ที่เงิน ทำให้คนพูดภาษาคนด้วยกัน เกือบไม่รู้เรื่อง

 ถัดมา เป็นเรื่องของสมาคมพี่อย่าง สมาคมโบรกเกอร์ กับสมาคมน้อง อย่างสมาคม บลจ. ก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันดิบดี ว่า อย่าไปหั่นไปตัดราคากันมาก วัดฝีมือกันที่การบริหารดีกว่า ดังนั้น ขอให้โบรกเกอร์คิดค่าคอมมิสชั่นที่ 0.20% ส่วนบลจ.ทุกแห่งก็ขอให้ยึดตามนั้น เป็นบรรทัดฐานร่วมกัน

 คล้อยหลังได้ไม่เท่าไหร่ มีการแอบคิดเลขผิดให้กัน หย่อนไปนิดหย่อนไปหน่อยซะได้ จนไม่รู้จะโทษว่า คนเสนอ กับคนที่สนอง คนไหนสมควรโดนประณามมากกว่ากัน 

 จะมาแก้เกี้ยวกันว่า ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน ถ้ามีคนมาเสนอค่าคอมมิสชั่นที่ต่ำ ก็เท่ากับกองทุนมีต้นทุนที่ต่ำ ผู้ถือหน่วยก็ได้ประโยชน์ ก็ควรจะรับไว้ ไม่ใช่ไปรวมหัวฮั้วราคากัน แล้วบังคับให้ผู้ถือหน่วยต้องยอมรับ  ถ้าจะอ้างกันอย่างนี้ ก็รับฟังได้ แต่มันไม่ใช่เหตุผลของกรณีนี้

 ในเมื่อเมืองมีกฎเมือง บ้านมีกฎบ้าน สมาคมถึงแม้ไม่ได้ออกเป็นกฎ แต่มีการตกลงร่วมกัน ก็ควรจะเคารพมติส่วนใหญ่ ไม่ใช่ทำตัวเป็นเจ้าใหญ่ แล้วบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น หรือเขากล้าให้มาก็เลยกล้ารับ แบบนี้ไม่เป็นผู้ใหญ่ ถ้าไม่ชอบใจก็บอกไม่ชอบใจ จะไม่ยอมทำตาม 

 หรือ ถ้ากลัวว่าผู้ถือหน่วยจะไม่เข้าใจ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยเขาก็มี หน่วยงานของตลาดที่จะประสานถามความเห็นจากผู้ลงทุนได้ เขาก็มี ก็ทำไปตามขั้นตอน ไม่ใช่แอบไปทำแล้วมาอ้างโน่นอ้างนี่

 ผลก็อย่างที่เห็น “เจ๊ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิ” นายกสมาคมบลจ. คงเบื่อเต็มแก่ เลยปล่อยผีเข้าป่าช้า ใครอยากทำอะไรก็เชิญ เพราะคุยกันด้วยเหตุด้วยผลแล้วไม่เข้าใจ อยากจะเห็นแก่ประโยชน์กี่มากน้อยกันเท่าไหร่ก็ตามสะดวก

 บอกให้รู้อีกเช่นกันว่า เรื่องเงินไม่มีพี่มีน้อง

 ส่วนเรื่องทอง ก็ร้อนใช่เล่น เพราะถ้าไม่มีอะไรผิดแผน อันที่จริง เราๆท่านๆจะต้องได้เทรด มินิ โกลด์ฟิวเจอร์ส ขนาด 10 บาท กันในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า แต่เจอม็อบเจ้าสัวเข้าไป ต่อให้ทีเฟ็กซ์ และ ก.ล.ต. ดื้อขนาดไหน ก็ยังต้องยอมเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด

 ประเด็นนี้ บอกตรงๆว่า ไม่รู้จะฟันธงเข้าข้างใครดี ทีเฟ็กซ์ ก็มีเหตุผลที่ดีตามแนวทางของเขา ในการพัฒนาตลาด และเพิ่มสินค้าใหม่ให้กับนักลงทุน ส่วนจะเอาไปเพื่อลงทุนจริงๆ ป้องกันความเสี่ยง หรือเก็งกำไร ก็สุดแล้วแต่

 ขณะที่ ทางฝั่งร้านทองเอง ก็มีเหตุผลที่น่ารับน่าฟังว่า ร้านทองจะอยู่ไม่ได้ แล้วจะกระทบต่อแรงงานตลอดจนครอบครัว ของผู้ที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจนี้ด้วย จะกี่มากน้อยไม่รู้ แต่เมื่อมีผู้ได้รับผลกระทบ ก็สมควรต้องได้รับการเหลียวแล 

 แถมสิ่งที่ทางสมาคมค้าทองคำ บอกว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวอีกอย่าง คือ มินิ โกลด์ฟิวเจอร์ส จะไม่ต่างอะไรเลยกับการเล่นการพนัน แถมเป็นการพนันที่ทำเอาหมดตัวได้ง่ายๆ เพราะราคาทองสมัยนี้ ใครที่บอกว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ราคามีเสถียภาพ มั่นคงสูง ช่วยขว้างตำราทิ้งไปไกล เนื่องจากราคาทองรุ่นใหม่ สวิงซะตลาดหุ้นตะลึงมาหลายครั้งแล้ว

 ถ้าไปซื้อเป็นทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองตกยังไง ก็ยังมีให้ได้นอนสะดุ้งจนเรือนไหวอยู่บ้าง แต่ถ้าลงทุนมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส ราคาทองร่วง หลักประกันก็ฮวบตาม แถมยังต้องถูกบังคับให้เอาเงินมาถมเพิ่มอีก ถ้าไม่เพิ่ม ก็โดนริบหมด จึงเป็นเหตุผลอันน่าฟังของสมาคมค้าทองคำ และชมรมผู้ค้าปลีกทองคำรายย่อยแห่งประเทศ จะใช้อ้างว่า ไม่สมควรที่จะปรากฏรายชื่อของมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส เป็นสินค้าใหม่ในตลาดอนุพันธ์บ้านเรา

 อย่างน้อย ก็ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้

 แต่จุดที่สมาคมค้าทองคำ และชมรมผู้ค้าปลีกฯ จะเถียงไม่ค่อยเต็มปากอยู่อย่างเดียว คือ เขาศึกษาหารือ ชี้แจงกันมาได้พักใหญ่แล้ว ทำไมถึงไม่ค้าน หรือค้านให้ดังๆเหมือนในตอนนี้ ปล่อยให้เวลาและขั้นตอนล่วงเลยถึงขนาดกำหนดวันเปิดซื้อขายกันแล้ว ค่อยมาดับเคลื่อนชน ดูแล้วมันใช้กฎหมู่มากไปหน่อย

 แม้บรรดาเสี่ยร้านทอง จะมาแอบบ่นรับหลังก็ตามว่า ค้านหัวชนฝามาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ทีเฟ็กซ์ และ ก.ล.ต. ไม่ฟัง แถมยังดึงดันอยากสร้างผลงาน ก็เลยต้องโดนเฒ่าแก่ดื้อกันบ้าง ถึงจะสาสม

 จนนำไปสู่ตัวอย่างที่สาม ที่ย้ำให้เห็นอีกครั้งว่า เงินทองไม่สนเพื่อนพ้องและน้องพี่
แต่ยังไงก็ช่วยมีกฎกติกามารยาทกันไว้บ้างก็ดี เพราะได้ยินแต่เรื่องแบบนี้แล้วเพลียใจ กับอนาคตวงการตลาดทุนไทย ว่าจะวนกันในอ่างจนน้ำเน่าไปถึงไหน

ไม่รู้ว่า นอกจากขี้เกียจตีฝ่ากำลังภายในของพี่โย่งแล้ว “พี่หนุ่ย ภัทรียา” เกิดอาการไม่ไหวจะเคลียร์กับเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งแบบนี้ด้วยรึเปล่า เลยตัดสินใจขออำลาตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปหลังหมดวาระ โดยไม่คิดจะลงลู่วิ่งลองลุ้นดูอีกสักตั้ง

     นายคิดดี
    This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

Written by :

platoo

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment