Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Top Headlines ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น82.66จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น82.66จุด PDF Print E-mail
Wednesday, 19 December 2018 07:28

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) ที่ 23,675.64 จุด เพิ่มขึ้น 82.66 จุด หรือ +0.35% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,546.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ +0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,783.91 จุด เพิ่มขึ้น 30.18 จุด หรือ +0.45% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งนำโดยหุ้นโบอิ้งที่พุ่งขึ้นกว่า 3% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากที่ปรึกษาทำเนียบขาวได้ออกมาขู่ว่าจะปล่อยให้มีการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ หากสภาคองเกรสไม่ผ่านงบประมาณการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมฟื้นตัวขึ้น นำโดยหุ้นโบอิ้งซึ่งปิดตลาดพุ่งขึ้น 3.8% หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผล และเพิ่มวงเงินการซื้อคืนหุ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิม 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ดีดตัวขึ้น 0.4% หุ้นยูเอส สตีล พุ่งขึ้น 1.2% และหุ้นเอเค สตีล โฮลดิ้งส์ เพิ่มขึ้น 1.5% และหุ้น 3M เพิ่มขึ้น 0.9%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความกังวลที่ว่า หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐอาจถูกชัตดาวน์ หลังจากนายสตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสประจำทำเนียบขาว เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างงบประมาณวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์สำหรับการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก มิฉะนั้นรัฐบาลอาจจำเป็นต้องปล่อยให้หน่วยงานบางส่วนถูกชัตดาวน์ เพื่อแลกกับความมั่นคงตามแนวชายแดน

นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดในวันพูธที่ 19 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% หลังจากสิ้นสุดการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมากดดันเฟดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า "ผมหวังว่าเจ้าหน้าที่เฟดจะอ่านบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ก่อนที่พวกเขาจะทำผิดพลาดอีกครั้งหนึ่งและอย่าได้ทำให้ตลาดขาดสภาพคล่องมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ขอให้เข้าใจความรู้สึกของตลาด อย่าได้ดำเนินการตามตัวเลขที่ไม่มีความหมาย ขอให้โชคดี"

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นสวนทางคาดการณ์ในเดือนพ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.256 ล้านยูนิต จากระดับ 1.217 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะลดลงสู่ระดับ 1.225 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday1423
mod_vvisit_counterAll days1423

We have: 1423 guests online
Your IP: 216.73.216.99
Mozilla 5.0, 
Today: Sep 18, 2025

6082208