Wednesday, 21 July 2010 10:03 |
บล.ฟิลลิป : PTTAR แนะนำ 'รอซื้อ' ราคาพื้นฐานอยู่ระหว่างปรับประมาณการ
คาด 2Q53 กลับมาขาดทุน 702 ล้านบาท จากผลกระทบ LCM คาดการณ์ใน 2Q53 บริษัทจะมีผลประกอบการเป็นขาดทุนสุทธิ 702 ล้านบาทขาดทุนต่อหุ้นอยู่ที่ 0.24 บาท ลดลงมาก YoY จาก 2Q52 ที่กำไรสุทธิ 4,213 ล้านบาท และ 1Q53 กำไรสุทธิ 2,356 ล้านบาท โดยกำไรที่ลดลงมากเนื่องจาก 1)รับรู้ขาดทุนจากตีมูลค่าสินค้าคงคลังลดลง(LCM) ประมาณ 2.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นเนื่องจากบริษัทใช้วิธีการตีมูลค่าสินค้าคงคลัง โดยเทียบต้นทุนราคาน้ำมันดิบกับราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จะขายได้(ถัวเฉลี่ย 10 วันแรกของต้นงวด 3Q53)ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างหารือกับผู้ตรวจสอบบัญชีที่จะเปลี่ยนวิธีบันทึก LCM ให้เป็นวิธีเดียวกับบโรงกลั่นอื่นคือเทียบตีมูลค่าน้ำมั้นดิบกับน้ำมันดิบ ซึ่งจะทำให้ขาดทุน LCM ลดลงจาก 2.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็น 1.2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลและบริษัทมีผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิประมาณ 4 ล้านบาท 2)ธุรกิจปิโตรเคมีมีส่วนต่างผลิตภัณฑ์ลดลง โดยส่วนต่างพาราไซลีน(PX-Condensate)ลดลง 27%YoY, 13.9%QoQเป็น 360 เหรียญสหรัฐต่อตัน และส่วนต่างเบนซีน(BZ-Condensate)ลดลง 29%QoQ จาก338 เหรียญสหรัฐต่อตัน เป็น 240 เหรียญสหรัฐต่อตัน แต่เทียบ YoY เพิ่มขึ้น 25.7% 3)บันทึกค่าใช้จ่ายจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน ARO2 ประมาณ 200 ล้านบาท 3)ส่วนธุรกิจโรงกลั่นไม่รวมผลกระทบ LCM และสต็อคน้ำมัน ปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะมีค่าการกลั่น(MarketGRM) อยู่ที่ 4.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 13.9%QoQ จาก 3.6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากส่วนต่างน้ำมันดีเซลและเครื่องบินปรับเพิ่มขึ้น
แนวโน้ม 2H53 คาดโรงกลั่นดีขึ้นเล็กน้อย แต่อะโรเมติกส์มีปัจจัยลบจาก Supply ล้น รอเวลาฟื้นตัว คาดใน 2H53 แนวโน้มค่าการกลั่น(Singapore Dubai Crack)ทรงตัวที่ 4-5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 1H53 ที่ 4.3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยมีปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ของน้ำมันประเภท iddle Distillate(Gasoil, Jet, Kero) ที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวและการขนส่งทางอากาศที่เพิ่มขึ้น สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอะโรเมติกส์ได้รับแรงกดดันจากภาวะ Supply ล้นเนื่องจากโรงงานอะโรเมติกส์ใช้กำลังการผลิตในระดับสูงเพื่อทดสอบประสิทธิภาพเมื่อกลับมาผลิตหลังปิดซ่อมบำรุง ซึ่งบริษัทคาดว่าหลังจากผ่านช่วงทดสอบ และแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ยังไม่ฟื้นตัว ผู้ผลิตจะลดกำลังการผลิตและทำให้ภาวะอุปสงค์และ อุปทานเข้าสู่ภาวะสมดุลและราคาผลิตภัณฑ์ปรับเพิ่มขึ้น
ระยะสั้นผลขาดทุนกดดันราคาหุ้น แนะนำ “รอซื้อ” คาดในระยะสั้น 1 เดือนราคาหุ้นจะถูกกดดันจากผลประกอบการใน 2Q53 ที่คาดว่าจะรายงานออกมาขาดทุน โดยทางฝ่ายจะปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2553 อีกครั้งหลังจากงบการเงิน 2Q53 ออกมาเพื่อรอดูวิธีการบันทึก LCM จะเป็นแบบใด สำหรับแนวโน้มผลประกอบการใน 3Q53 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าขาดทุนจากการตีมูลค่าสินค้าคงคลังมีโอกาสที่จะนทึกกลับมาเป็นบวกและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงสู่ภาวะปกติ เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงโรงงาน ระยะสั้นทางฝ่ายแนะนำ “รอซื้อ” เมื่อราคาปรับลดลงแรง ราคาพื้นฐานอยู่ระหว่างปรับเป็นราคาปี 2554
|
Comments