Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Hot News ‘TURBO’ประกาศราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.50 บาทต่อหุ้น เตรียมจองซื้อ 19-23 ก.ย. นี้
‘TURBO’ประกาศราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.50 บาทต่อหุ้น เตรียมจองซื้อ 19-23 ก.ย. นี้ PDF Print E-mail
Thursday, 18 September 2025 21:49

‘บมจ. เงินเทอร์โบ’ หรือ TURBO ผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและพลังคนรุ่นใหม่ ชูพอร์ตโฟลิโอสินเชื่อเติบโตแบบก้าวกระโดดผ่านทุกสภาวะเศรษฐกิจ และความสามารถในการสร้างรายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มผู้ให้บริการในอุตสาหกรรม¹  วางกลยุทธ์มุ่งเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจลูกค้า รุกเพิ่มสาขาไม่ต่ำกว่า 1,475 แห่ง ภายในปี 2572 และพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินและบริการใหม่ๆ มุ่งสู่ผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นนำระดับประเทศ ประกาศราคาเสนอขาย IPO ที่ 1.50 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดจองซื้อ 19-23 ก.ย. 68 โชว์กำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) 2568 พุ่งกว่า 285.8%

นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) หรือ TURBO เปิดเผยว่า “TURBO” ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ หรือสามารถเข้าถึงแต่ได้รับบริการที่ไม่ครบถ้วน ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ต้องการที่จะเห็นผู้คนในทุกๆ ชุมชน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ มีความสมเหตุสมผล และเข้าใจวิถีชีวิตของคนในชุมชนอย่างแท้จริง ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจสินเชื่อ ประกอบด้วย สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน สินเชื่อโฉนดที่ดิน และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์  2.ธุรกิจนายหน้าประกันภัย ซึ่งประกอบด้วยประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ภายใต้จุดแข็ง การบริการที่สะดวกรวดเร็ว เข้าใจลูกค้า และใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กรในทุกขั้นตอน ทำให้ควบคุมความเสี่ยงได้ดี มีต้นทุนการดำเนินงานอยู่ในระดับต่ำได้ในระยะยาว โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีสาขาทั้งสิ้น 996 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่ 54 จังหวัดทั่วประเทศ

จากจุดแข็งดังกล่าว แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ แต่กลุ่มบริษัทฯ สามารถสร้างพอร์ตสินเชื่อเติบโตแบบก้าวกระโดดจาก 3,282.0 ล้านบาท ณ วันที่  31 ธันวาคม 2563 เป็น 11,262.9 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568  คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 31.5% นอกจากนี้ สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 กลุ่มบริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อสาขาที่ 1.4 ล้านบาทต่อปี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมเดียวกัน¹ ซึ่งอยู่ที่ 2.3 ล้านบาทต่อสาขาต่อปี ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มั่นใจว่าค่าใช้จ่ายการดำเนินการดังกล่าวต่อสาขาจะลดลงจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทฯ มีระบบเทคโนโลยีที่เหมาะสมและวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ ยังมีศักยภาพเติบโตสูงจากการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีอายุสาขาเฉลี่ยเพียง 4.1 ปี ซึ่งมีสัดส่วนสาขาที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปีถึง 65.6% ของจำนวนสาขาทั้งหมด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า TURBO เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อสร้างการเติบโตสู่ผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นนำระดับประเทศ ด้วยกลยุทธ์ที่สำคัญ ได้แก่ 1) มุ่งเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจลูกค้า (Build Brand) โดยเน้นคุณภาพการให้บริการ รักษาความประทับใจและการบอกต่อของลูกค้าให้อยู่ในระดับสูง 2) พัฒนาระบบเทคโนโลยี (Build Technology) โดย TURBO ยังคงกลยุทธ์ในการมีทีมเทคโนโลยีเป็นของตนเอง ทำให้สร้างระบบเทคโนโลยีที่มีความเฉพาะและยืดหยุ่นได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการนำ AI มาปรับใช้ในทุกๆ กระบวนการทำงาน 3) เพิ่มความสะดวกสบาย (Build Convenience) ผ่านการขยายสาขาให้ครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าขยายสาขาเป็นไม่น้อยกว่า 1,475 สาขา ภายในปี 2572 รวมถึงการพัฒนาช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ ให้ครอบคลุม ครบถ้วน เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าและ 4) พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (Build Product Choices) เหมาะกับความต้องการของลูกค้าที่มีความแตกต่างกัน เช่น การเพิ่มประเภทหลักประกันสำหรับสินเชื่อ การเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ประกัน และการเพิ่มจำนวนคู่ค้าบริษัทประกัน

นายธนันท์ ลิ้มสายพรหม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  จากศักยภาพในการแข่งขันที่สูงดังกล่าว ส่งผลให้ปี 2566-2567 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 2,430.7 ล้านบาท และ 3,033.2 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 24.8% และมีกำไรสุทธิ 131.7 ล้านบาท และ 141.6 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 7.5% ส่วนงวด 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 2568 มีรายได้รวม 1,517.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% และมีกำไรสุทธิ 235.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 285.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงผลประกอบการที่เติบโต  ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) อยู่ที่ 19.8% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่   15.1%  นอกจากนี้ TURBO ยังมีอัตรารายได้รวมหักค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อลูกหนี้เงินให้กู้ยืมสุทธิเฉลี่ย 21.8% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 18.0% อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนความสามารถในการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ

นายคมกฤต รักษากุลเกียรติ หัวหน้าวาณิชธนกิจ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า  TURBO  เป็นหุ้นที่มีจุดเด่นต่างจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมีความสามารถสร้างรายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม¹ และยังมีโอกาสเติบโตจากภาพรวมอุตสาหกรรมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันของผู้ประกอบการที่ไม่ใช่ธนาคาร ซึ่งมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี 22.4% นับจากปี 2565 ถึงไตรมาส 1 ปี 2568 รวมถึงธุรกิจบริการผ่อนชำระเบี้ยประกันในธุรกิจนายหน้าประกันภัยและนายหน้าประกันชีวิตของกลุ่มบริษัทฯ ที่เติบโตเฉลี่ย 54.3% ต่อปีนับจากปี 2563 ถึงปี 2567 ตลอดจนการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่าย นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มีความพร้อม โดยนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการทำงานตั้งแต่การปล่อยสินเชื่อ การติดตามทวงถามหนี้  การบริหารความเสี่ยงที่มีการติดตามผลข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเพื่อปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที  และขับเคลื่อนองค์กรด้วยทีมงานคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านการเงินและเทคโนโลยี

ล่าสุด บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) มีผลใช้บังคับแล้ว โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 537 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.5 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 20.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ แบ่งเป็น 1) การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 447.78 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 16.8% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และ 2) การเสนอขายหุ้นสามัญเดิมโดยบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด จำนวนไม่เกิน 89.22 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 3.3% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์  กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า วัตถุประสงค์การเสนอขาย IPO ในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจให้บริการทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ล่าสุดได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.50 บาทต่อหุ้น จะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อวันที่ 19 – 23 กันยายน 2568 และคาดว่าจะสามารถนำหุ้น TURBO เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในเดือนกันยายนนี้ ทั้งนี้ มองว่าราคาเสนอขาย IPO ดังกล่าวมีความเหมาะสม สะท้อนถึงศักยภาพในการเติบโตและพร้อมจะก้าวสู่ผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นนำของประเทศ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday1273
mod_vvisit_counterAll days1273

We have: 1272 guests online
Your IP: 216.73.216.99
Mozilla 5.0, 
Today: Sep 19, 2025

8227984