Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home IR & PR โรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์ ฉลอง 40 ปี ลุยต่อธุรกิจดูแลสุขภาพ เพื่อคนทุกวัย
โรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์ ฉลอง 40 ปี ลุยต่อธุรกิจดูแลสุขภาพ เพื่อคนทุกวัย PDF Print E-mail
Wednesday, 19 February 2025 23:57

- แคมเปญ “The Heart of Giving, The Gift of Caring” สร้างต้นแบบลดเสี่ยง NCDs ขานรับ “วาระแห่งชาติ” ของ สธ. ลุยแก้วิกฤต NCDs ชี้ “คนวัยทำงานเสี่ยงสูง”

- เผยตัวเลขเบาหวานพุ่ง เฉลี่ยคนไทย 1 ใน 10 ป่วยเบาหวาน ทะลุ 6.5 ล้านคน

โรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์ โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่วางรากฐานและสร้างต้นแบบการดูแลรักษาเบาหวานในระดับสากล ฉลองครบรอบ 40 ปีแห่งความสำเร็จในการดูแลสุขภาพของคนทุกวัย ภายใต้แคมเปญ “The Heart of Giving, The Gift of Caring” ดูแลด้วยใจ ห่วงใยไม่สิ้นสุด พร้อมประกาศเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่ปัจจุบันกลายเป็นความท้าทายสำคัญของวงการสาธารณสุขไทย ด้วยตัวเลขผู้เป็นเบาหวานสะสมที่น่ากังวล นอกจากนี้โรค NCDs ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน

โดยแผนการดำเนินงานของโรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์ สอดรับกับการประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ให้การลดอัตราการป่วยโรค NCDs ของคนไทยเป็นวาระแห่งชาติ โรงพยาบาลฯ จึงเร่งเดินหน้ายกระดับบริการด้านสุขภาพมาตรฐานระดับสากลที่ครอบคลุมทุกมิติของการดูแลรักษาตั้งแต่การป้องกันไปจนถึงการฟื้นฟู เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้คนทุกวัย พร้อมสร้างสังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืนผ่านการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายของโรค NCDs และแนวทางการปรับไลฟ์สไตล์ก่อนถึงวันที่สาย

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เทพ หิมะทองคำ ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลเทพธารินทร์ กล่าวว่า “โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์มุ่งสร้างความยั่งยืนด้านสุขภาพให้ประชาชนทุกวัย โดยแนวคิดนี้เกิดจากประสบการณ์ศึกษาดูงานต่างประเทศ ซึ่งทำให้เห็นว่าการดูแลโรค NCDs โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ต้องเน้นการป้องกันและให้ความรู้ควบคู่กับการรักษา เพราะผู้ป่วยมักเผชิญกับปัญหาซ้ำซากเมื่อพึ่งพาการรักษาเพียงอย่างเดียว ผมตระหนักว่าการให้ความรู้คือกุญแจสำคัญ แต่ต้องมีทีมสหสาขาวิชาชีพที่แข็งแกร่งและระบบที่บริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งโรงพยาบาลเทพธารินทร์ เพื่อเป็นต้นแบบการดูแลผู้ป่วยที่ครอบคลุมทั้งการรักษา การให้ความรู้ และการป้องกัน โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่สามารถป้องกันได้หากสร้างความตระหนักรู้ที่ถูกต้อง”

องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่าในปี 2021 โรค NCDs คร่าชีวิตประชากรทั่วโลกอย่างน้อย 43 ล้านคน โดยมีประชากร 18 ล้านคนที่เสียชีวิตจากกลุ่มโรคดังกล่าวก่อนอายุ 70 ปี กลุ่มโรคดังกล่าว จึงถือว่าเป็นหนึ่งใน "ภัยเงียบของคนวัยทำงาน" สำหรับสถานการณ์ในไทย งานวิจัยของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับ WHO บ่งชี้ว่า คนไทยเสียชีวิตจากโรค NCDs ปีละกว่า 400,000 ราย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง เบาหวาน มะเร็ง และโรคปอดเรื้อรัง นอกจากนี้ โรค NCDs ยังเป็นภาระทางเศรษฐกิจที่รุนแรง โดยกรมควบคุมโรค เผยว่าโรค NCDs ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจต่อประเทศไทยถึง 1.6 ล้านล้านบาทต่อปี คิดเป็น 9.7% ของ GDP ล่าสุด สธ. จึงประกาศให้การต่อสู้กับโรค NCDs เป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติ พร้อมเสนอให้ทุกภาคส่วนร่วมป้องกันการป่วยก่อนเป็นโรคและส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพที่ดี พร้อมหาทางแก้ไขให้ตรงสาเหตุ

นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ กล่าวว่า "โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ มุ่งขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจสุขภาพด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างความยั่งยืนด้านสุขภาพให้แก่ประชาชนทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาอันท้าทายเช่นนี้ หลังจากที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ และจะมีประชากรอายุเกิน 65 ปีเพิ่มขึ้นถึง 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในอีก 10 ปีข้างหน้า การฉลองครบรอบ 40 ปีภายใต้แนวคิด 'The Heart of Giving, The Gift of Caring' จึงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งการรักษา การป้องกัน และการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านสุขภาพให้กับสังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มโรคที่เราสามารถสร้างความตระหนักรู้เพื่อป้องกันได้อย่างตรงจุดอย่างกลุ่มโรค NCDs"

สำหรับสถานการณ์น่ากังวลและสาเหตุของโรค NCDs  นายแพทย์สมเกียรติ ได้กล่าวเสริมว่า "สถานการณ์โรคไม่ติดต่อเรื้อรังในประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะในกลุ่มโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ หัวใจและหลอดเลือด ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การขยายตัวของเมือง และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป การผลักดันให้การลดอัตราการป่วยด้วยโรค NCDs เป็นวาระแห่งชาติจึงเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาสุขภาพของประเทศ

วัยทำงานในเมืองกำลังเผชิญความเสี่ยงด้านสุขภาพที่น่าวิตก โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรค NCDs ไม่ว่าจะเป็นการปาร์ตี้ที่มักมาพร้อมกับการดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานบุฟเฟต์ที่เน้นของมัน และของหวาน การติดกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อต่อสู้กับความเหนื่อยล้า รวมถึงการเลือกอาหารจานด่วนและอาหารสำเร็จรูปเพื่อความสะดวกรวดเร็ว เมื่อประกอบกับความเครียดจากการทำงาน การนั่งทำงานเป็นเวลานาน และการขาดการออกกำลังกาย จึงไม่น่าแปลกใจที่พบว่าคนวัยทำงานกำลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคไต ซึ่งมีแนวโน้มพบในกลุ่มอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ ด้วยความตระหนักถึงความท้าทายด้านสุขภาพที่ซับซ้อนนี้

โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ จึงมุ่งมั่นนำระบบการดูแลผู้ป่วยแบบทีมสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งได้ถูกพัฒนาและเป็นต้นแบบการดูแลรักษาของประเทศไทยมานาน 40 ปี พร้อมต่อยอดสร้างประโยชน์ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยระบบการดูแลผู้ป่วยด้วยทีมสหสาขาวิชาชีพนี้ไม่เพียงมุ่งการรักษาอาการของโรคเท่านั้น แต่เน้นให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขยายผลการดูแลสุขภาพไปสู่สมาชิกในครอบครัวและสังคม เพื่อสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพที่ยั่งยืนสำหรับคนทุกวัย”

นายแพทย์เอกลักษณ์ วโนทยาโรจน์ ผู้อำนวยการศูนย์เบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อเทพธารินทร์ กล่าวถึงสถานการณ์โรคเบาหวานในไทยว่า "จากรายงานสถิติสาธารณสุขไทยพบว่า มีผู้เป็นเบาหวานรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 300,000 คนต่อปี และปัจจุบันมีคนไทยถึง 1 ใน 10 คน หรือประมาณ 6.5 ล้านคนที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน ที่น่าเป็นห่วงคือ เรากำลังพบผู้ป่วยในกลุ่มคนทำงานที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีภาระงานหนักและมีความเครียดสูง ซึ่งมักพึ่งพาอาหารหวาน มัน และของทอด เพื่อบรรเทาความเครียด แม้น้ำตาลจะช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดได้ชั่วคราว แต่พฤติกรรมเช่นนี้กลับทำลายสุขภาพในระยะยาว

นอกจากนี้ โรคเบาหวานยังเป็นจุดเริ่มต้นของโรค NCDs อื่นๆ ที่อันตรายไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำลายหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังจากการที่ไตต้องทำงานหนักในการกรองน้ำตาล ภาวะจอประสาทตาเสื่อมที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น และภาวะปลายประสาทเสื่อมที่ทำให้เกิดแผลที่เท้าซึ่งรักษายาก และสามารถนำไปสู่การสูญเสียอวัยวะ การป้องกันโรคเบาหวานจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ และธัญพืชเต็มเมล็ด ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และหมั่นตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาความผิดปกติให้พบแต่เนิ่นๆ รวมถึงการลดปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นทำได้ตั้งแต่วันนี้"

ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ได้มุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อพัฒนาสุขภาพของผู้คนในสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้นผ่านภารกิจต่าง ๆ 1) การสร้างต้นแบบการทำงานแบบทีมสหสาขาวิชาชีพ (Introduced Diabetes Team Care Model) ด้วยการจัดตั้งศูนย์เบาหวานและไทรอยด์แห่งแรกของประเทศไทย จัดรูปแบบการดูแลที่ให้ทีมทำงานร่วมกันเพื่อเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เป็นเบาหวานและญาติ เพิ่มขีดความสามารถในการดูแลตนเองที่ถูกต้อง จนได้รับการรับรองเฉพาะโรค (เบาหวาน และไทรอยด์) จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย

2) การสร้างวิชาชีพใหม่ (Introduced New Diabetes Team Care Professions) ได้แก่ ผู้ให้ความรู้โรคเบาหวาน (diabetes educator) นักกำหนดอาหาร (dietitian) และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเท้า (foot care specialist) ผ่านการสร้างต้นแบบที่โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ แล้วขยายจำนวนบุคลากรผ่านการสอนต่อ โดยทำงานประสานกับภาคมหาวิทยาลัย สมาคมวิชาชีพ และสถานพยาบาล ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ

3) การทำงานและส่งต่อแนวคิดป้องกันโรค (Introduced Preventive Mindset) ผ่านการพัฒนาให้โรงพยาบาลไม่ใช่สถานที่เพื่อดูแลความเจ็บป่วยเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ที่มาแล้วช่วยทำให้ไม่เกิดการเจ็บป่วยได้ อีกทั้งยังจัดตั้งมูลนิธิสู้เบาหวาน เพื่อเอื้อให้เกิดกลไกการนำแนวคิดทำงานป้องกันโรคสู่ชุมชนนอกรั้วโรงพยาบาล

ด้านนักร้องชื่อดัง "บีม-กวี ตันจรารักษ์" และภรรยา "ออย-อฏิพรณ์ จิตต์ธรรมวงศ์" ที่มาร่วมงานฉลอง 40 ปีของโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ กล่าวถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพว่า "ในฐานะครอบครัวที่มีสมาชิกหลากหลายช่วงวัย ตั้งแต่ผู้สูงอายุจนถึงเด็กเล็ก เราจึงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ โดยเริ่มต้นจากตัวเราเองที่ต้องมีความรู้ เข้าใจปัญหา เข้าใจไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน หาทางป้องกันและลดความเสี่ยงได้ถูกต้อง ดังนั้น การตรวจสุขภาพประจำปีเลยสำคัญมาก ๆ เพราะเชื่อว่าการป้องกันดีกว่าการรักษา โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุในครอบครัว

ขณะที่ลูก ๆ เอง ก็อยากให้เค้าเข้าใจการดูแลสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย จะได้เติบโตอย่างมีคุณภาพและแข็งแรง พ่อแม่อย่างเราสองคนเห็นว่าการตรวจสุขภาพเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและการได้รับการดูแล คำแนะนำการปฏิบัติที่ถูกต้อง อ้างอิงหลักวิชาการ จากทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก็ทำให้เราสองคนรู้สึกวางใจ"

ทั้งนี้ ผลประกอบการของโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ในปี 2567 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยรายได้ 988.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.83 จากปี 2566 สะท้อนความสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้าทั้งผู้ป่วยทั่วไป บริษัทประกัน และการรักษาเคสฉุกเฉิน พร้อมกับการพัฒนาแพ็กเกจฉีดวัคซีน และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างครอบคลุม

ฉลองครบรอบ 40 ปี โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ กับโปรโมชัน “40 Year to Better Health สุขภาพดี ไม่มีหยุด” ตลอด 40 วันแห่งความสุข มอบโปรแกรมตรวจสุขภาพ 14 รายการ ในราคา 1,440 บาท และโปรแกรมตรวจเฉพาะทางด้านเบาหวาน เริ่มต้น 3,940  บาท พร้อมรับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ: (1) แลกซื้อรายการตรวจพิเศษกว่า 40 รายการ เริ่มต้นเพียง 440 บาท และ (2) รับ Cash Voucher มูลค่า 400 บาท สำหรับใช้บริการ OPD/IPD ในครั้งถัดไป ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.theptarin.com

ผู้ที่สนใจดูแลสุขภาพกับโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ สามารถรับคำปรึกษาและจองนัดตรวจสุขภาพได้ที่ 02-348-7000

หรือเข้าชมเว็บไซต์ www.theptarin.com

+++++++++++++++++++++++++++++++++

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday998
mod_vvisit_counterAll days998

We have: 998 guests online
Your IP: 18.216.176.25
Mozilla 5.0, 
Today: Feb 21, 2025

4323216