KBANK ผลประกอบการเติบโตโดดเด่นแนวรับ 85, 84 แนวต้าน 90 บาท
|
|
|
|
Tuesday, 20 April 2010 11:44 |
KBANK ผลประกอบการเติบโตโดดเด่นแนวรับ 85, 84 แนวต้าน 90 บาท ---------------------------------------------------------------------------------------------- กสิกร ไทยกวาด 2 รางวัล นายธนาคารที่ประสบความสำเร็จสูงสุดและธนาคารแข็งแกร่งที่สุดในไทย โดย "ดิเอเชี่ยน แบงเกอร์" วารสารด้านการเงินชั้นนำของเอเชีย รวมทั้งได้ยกย่อง "บัณฑูร ล่ำซำ" ซีอีโอ ธนาคารกสิกรไทย เป็นนักการธนาคารที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศไทย และธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำที่เน้นการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้องค์กร เน้นกลยุทธ์ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การสร้างแบรนด์ และลดสัดส่วน NPL ต่อเนื่องเป็นการประกาศผลของวารสารดิ เอเชี่ยน แบงเกอร์ ได้ประกาศผลรางวัลนักการธนาคารที่ประสบความสำเร็จสูงสุดและธนาคารที่แข็ง แกร่งที่สุดใน ภูมิภาคเอเชีย ประจำปี 2553 (The QFC-Asian Banker Leadership Achievement Award and the Strongest Banks in Asia Awards 2010) ซึ่งจัดเป็นประจำทุก 3 ปี เพื่อมอบรางวัลให้แก่นักการธนาคารระดับสูงและธนาคารในภูมิภาคเอเชีย ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ให้มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน
สถาบันวิจัยนคร หลวงไทยมองภาพรวมปี 2553 ของการให้สินเชื่อสิ้นสุด เดือน ก.พ. ของธนาคารพาณิชย์ 10 แห่ง มีอัตราการขยายตัวเพียง 1% mom และ 0.4% YTD โดยมีแนวโน้มที่ดีในกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก ได้แก่ TISCO (+5.8% YTD) KK (+2% YTD) และ TBANK (+2.1% YTD) ที่ได้รับอานิสงค์จากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ธนาคารขนาดใหญ่จะมีเพียง KTB ที่มีอัตราการเติบโตของสินเชื่อ 4.4 % YTD ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ที่ 6 – 7% มากที่สุด เนื่องจากได้รับอานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ และ สินเชื่อ SMEs ในขณะที่ธนาคารอื่นๆยังมีการปล่อยสินเชื่อสุทธิต่ำกว่าเป้าหมายมากโดยเฉพาะ TMB และ SCB ที่สินเชื่อติดลบกว่า 2.7% YTD และ 2.6% YTD ตามลำดับ
SCRI ประเมินว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เงินให้สินเชื่อสุทธิในปี 2553 จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ผู้บริหารของธนาคารส่วนใหญ่คาดหวังไว้ โดย SCRI ประเมินว่า การให้สินเชื่อของบริษัทขนาดใหญ่ (Corporate) น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดและมีโอกาสที่จะถูกปรับลดเป้าหมาย โดยธนาคารที่วางเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มนี้สูงที่สุดได้แก่ TMB 20% yoy และ KBANK 8 – 10% yoy
ผล กระทบจากเหตุการณ์ทางการเมือง ที่ได้ส่งผลกระทบต่อหลายๆธุรกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและโรงแรม ทำให้ SCRI มีความกังวลว่าธนาคารต่างๆน่ากลับมาใช้เกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออย่างระมัด ระวังมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ได้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มมากขึ้น
มุม มองของ "ธณพงศ์ มีทอง" ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้กลุ่มแบงก์ยังอยู่ในความสนใจมีหลายปัจจัย นอกเหนือจากผลประกอบการปีนี้จะเติบโตดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ "เจพีมอร์แกนเชสแอนด์โค" ยังออกมาคาดการณ์ผลประกอบการกลุ่มธนาคารของไทยว่า จะเติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ด้วยเช่นกัน จากความต้องการสินเชื่อจากผู้ประกอบการในภาคส่งออกขยายตัวตามการค้าโลกที่ ฟื้นตัว ซึ่ง "ศรียัน ปีเตอร์ส" หัวหน้านักวิเคราะห์ประจำภูมิภาคอาเซียนของเจพีมอร์แกน ได้แนะนำลงทุนได้แก่ KBANK และ SCB เนื่องจากมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีจากการมุ่งปล่อยสินเชื่อให้กับวิสาหกิจ ขนาดกลางขนาดย่อม
|
Comments