กนง. คงดอกเบี้ย มองเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่อง |
![]() |
![]() |
![]() |
Thursday, 09 August 2018 09:18 | |||
EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกบทวิเคราะห์ เรื่อง EIC Flash: กนง. คงดอกเบี้ย มองเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่อง แต่รอประเมินความยั่งยืนของเงิน เฟ้อ โดยระบุว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิ น (กนง.) ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย วันที่ 8 สิงหาคม 2018 คณะกรรมการมีมติ 6 ต่อ 1 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไ ว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยคณะกรรมการฯ ส่วนใหญ่มองว่านโยบายการเงินที่ ผ่อนคลายในระดับปัจจุบันมีส่วนช่ วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิ จและสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงิ นเฟ้อ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโ ยบายไว้ ขณะที่กรรมการ 1 ท่านออกเสียงให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.50% เป็น 1.75% จากความกังวลด้านเสถียรภาพระบบก ารเงินและการเพิ่มขีดความสามารถ ในการดำเนินนโยบายการเงินในระยะ ข้างหน้า (policy space) กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้ม ขยายตัวต่อเนื่อง แต่มีความเสี่ยงจากสงครามการค้า และการขยายตัวของการท่องเที่ยว ในช่วงที่ผ่านมาการส่งออกและการ ท่องเที่ยวที่ขยายตัวตามเศรษฐกิ จโลกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยการส่งออกสินค้ามีแนวโน้มขยา ยตัวดีกว่าที่ประเมินไว้จากผลดี ของการย้ายฐานการผลิตมายังไทย ส่วนอุปสงค์ในประเทศมีแรงส่งเพิ่มขึ้นจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขย ายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หนี้ภาคครัวเรือนยังอยู่ในระดับ สูงและไม่ปรับตัวดีขึ้น จึงทำให้กำลังซื้อฟื้นตัวอย่างค่ อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ การท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวต่ำ กว่าที่ประเมินไว้หลังเกิดเหตุ การณ์เรือท่องเที่ยวล่ม ที่ภูเก็ต ส่วนความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจใ นด้านอื่นๆ ยังคงเป็นเรื่องสงครามการค้า และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ กนง. มองอัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้ม ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ โดยค่าเฉลี่ยทั้งปีอยู่ในกรอบเป้ าหมายแต่ยังใกล้ขอบล่าง รวมทั้งมีความเสี่ยงด้านต่ำจากร าคาอาหารสดที่อาจต่ำกว่าคาด ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มเพิ่ มขึ้นเล็กน้อยตามแรงกดดันเงิ นเฟ้อด้านอุปสงค์ที่ปรับสูงขึ้ นอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ กนง. ประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโค รงสร้างทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่ม ขึ้นช้ากว่าในอดีตแม้ว่าเศรษฐกิ จจะขยายตัวได้เต็มตามศักยภาพแล้ วก็ตาม สำหรับคาดการณ์เงินเฟ้อของสาธาร ณชนโดยรวมค่อนข้างทรงตัว กนง. ยังกังวลต่อความเสี่ยงด้านเสถีย รภาพระบบการเงิน จากการประเมินความเสี่ยงที่ต่ำก ว่าที่ควรภายใต้ภาวะดอกเบี้ยต่ำ ต่อเนื่อง รวมทั้งแสดงความกังวลเพิ่มเติมใ นประเด็นภาวะการแข่งขันในตลาดสิ นเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย อุปทานคงค้างของอาคารชุดในบางทำ เล และสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ยั งไม่ดีขึ้นนัก อีไอซีคาด กนง. คงดอกเบี้ยต่อเนื่องในปี 2018 อีไอซีคาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ต่อเนื่องในปี 2018 จากแนวโน้มค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้ อทั้งปีที่จะยังอยู่ในระดับล่ างของกรอบเป้าหมาย โดยอีไอซีมองว่า ทั้งอัตราการเพิ่มของราคาน้ำมัน ในกรณีฐานมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่ วงครึ่งหลังของปี ขณะที่ดัชนีราคาอาหารสดในช่วง 7 เดือนแรกของปีหดตัวราว 0.8%YOY และในช่วงที่เหลือของปียังมีแนว โน้มถูกกดดันจากปริมาณผลผลิตที่ ยังสามารถออกสู่ตลาดได้มากตามสภ าวะอากาศที่เอื้ออำนวย ด้วยเหตุนี้ อีไอซีจึงมองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงที่เหลือของปีจะมีแนวโ น้มชะลอลงกลับมาอยู่ใกล้กรอบล่า งของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ทำให้ กนง. ยังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ ผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนให้แรงกดดั นราคาด้านอุปสงค์สูงขึ้นซึ่ งจะช่วยเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่ วไปอยู่ภายในกรอบเป้าหมายได้อย่ างยั่งยืน นอกจากนั้น กนง น่าจะรอประเมินภาพเศรษฐกิจที่แม้ จะขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง แต่มีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มเติ มจากสงครามการค้าที่อาจกระทบต่อ การส่งออกและการท่องเที่ยวที่อา จต่ำกว่าคาดจากเหตุการณ์เรือล่ม ที่ภูเก็ต ต้องติดตามการสื่อสารความกังวลข อง กนง. ต่อประเด็นปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งจะมีนัยต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ ยนโยบาย ที่ผ่านมา กนง. ได้แสดงความกังวลต่อปัญหาความสา มารถในการชำระหนี้ของ SME ที่ยังไม่ดีขึ้นซึ่งแม้ส่วนหนึ่ งจะเกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้างโด ยเฉพาะการปรับตัวต่อรูปแบบการแข่ งขันที่เปลี่ยนแปลงไป แต่การปรับขึ้นดอกเบี้ยก็เป็นกา รเพิ่มภาระการชำระหนี้ขึ้นอีกจึ งเป็นเหตุผลในการสนับสนุนให้คงด อกเบี้ยไว้ก่อน แต่ในครั้งนี้ กนง. ได้แสดงความกังวลเพิ่มเติมเกี่ย วกับการก่อหนี้ครัวเรือนที่ยังไ ม่ลดลงตามที่คาด ซึ่งอาจทำให้ กนง. ต้องพิจารณาว่า จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบ ายหรือจะใช้มาตรการอื่นๆ เช่น มาตรการ Macroprudential เพื่อดูแลปัญหาดังกล่าวหรือไม่ แม้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ -ไทย จะมีแนวโน้มกว้างขึ้นต่อเนื่อง แต่ด้วยเสถียรภาพด้านต่างประเทศ ของไทยที่เข้มแข็ง จึงทำให้ไทยมีกันชนทางการเงิน (cushion) ช่วยรองรับผลกระทบจากปัจจัยดังก ล่าวได้ จากการที่สหรัฐฯ ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่ างต่อเนื่อง ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่ างสหรัฐฯ และไทยมีแนวโน้มกว้างขึ้น จึงทำให้นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มมี ความกังวลต่อความเสี่ยงที่อาจเกิ ดเงินทุนไหลออกจากตลาดเงินไทยได้ อย่างไรก็ตาม อีไอซีมองว่าด้วยเสถียรภาพด้านต่ างประเทศของไทยที่อยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกิ นดุลในระดับสูง และเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีมากเพียงพอ ทำให้ไทยมีกันชนทางการเงินและเค รื่องมือเชิงนโยบายที่ช่วยสร้าง ความมั่นใจให้กับนักลงทุน รวมทั้งเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้ม ขยายตัวดีก็ยังเป็นแรงดึงดูดเม็ ดเงินจากต่างประเทศในรูป FDI และตลาดหุ้นได้ ดังนั้น แม้อาจจะมีเงินไหลออกไปบ้างเพื่ อหาผลตอบแทนจากดอกเบี้ยส่วนต่าง ก็คงไม่มากจนส่งผลกระทบรุนแรงต่ อเสถียรภาพการเงินของไทย อีไอซีจึงประเมินว่า กนง. จะมีความยืดหยุ่นในการพิจารณาดอ กเบี้ยนโยบายให้สอดคล้องเหมาะสม กับภาวะเศรษฐกิจในประเทศมากกว่า ปัญหาเสถียรภาพด้านต่างประเทศ ต่างจากบางประเทศที่มีการขาดดุล บัญชีเดินสะพัดและเงินสำรองไม่เ ข้มแข็ง จึงต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต ามสหรัฐฯ จับตามองประเด็นสงครามทางการค้า การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว และปัจจัยความเสี่ยงภูมิรัฐศาสต ร์โลก ซึ่งจะมีผลต่อการปรับขึ้นอัตราด อกเบี้ยนโยบายได้ โดยสงครามการค้าระหว่างประเทศอา จส่งผลต่อแนวโน้มการค้าโลก และการส่งออกไทยได้ สำหรับเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวล่ มที่ภูเก็ตซึ่งส่งผลให้จำนวนนั กท่องเที่ยวจีนลดลง อีไอซีมองว่าจะเป็นเพียงปัจจัยร ะยะสั้น และจะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ ยวโดยรวมอย่างมีนัย นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่ตึงเครียดขึ้น โดยสหรัฐฯ ได้ทำการ sanction สินค้าจากอิหร่านซึ่งรวมถึงน้ำมั นดิบ จึงอาจทำให้มีผลต่อแนวโน้มราคาน้ำ มันดิบโลกซึ่งอาจสูงขึ้นกว่าที่ คาดการณ์ไว้ได้ จึงเป็นความเสี่ยงให้อัตราเงินเ ฟ้ออาจสูงขึ้นกว่าที่ประเมินไว้
|
![]() | Today | 1282 |
![]() | All days | 1282 |
Comments